Cinderella Eyes ตัวเลือกใหม่สำหรับคนมีปัญหารอยคล้ำใต้ตา

สารบัญ

Cinderella Eyes ช่วยแก้ปัญหาอะไร

  1. รอยหมองคล้ำรอบดวงตา – หรือที่เรียกกันง่ายๆว่า “ตาแพนด้า” อาจเกิดจากกรรมพันธุ์ อดนอน มีโรคประจำตัวภูมิแพ้ ตาแห้ง หรือเกิดจากอายุมากขึ้นก็ตาม รอยคล้ำรอบดวงตานั้นจะทำให้ดูเศร้าหมอง ไม่สดชื่น แก่กว่าวัย ซึ่งตอนนี้เรามีตัวช่วยที่เลิศเลอ นั่นก็คือ “Cinderella Eyes” ที่จะช่วยเสริมสร้างการสร้างคอลลาเจนและชั้นผิว เพิ่มความชุ่มชื้นและการไหลเวียนโลหิตบริเวณรอบดวงตาทำให้รอยหมองคล้ำดีขึ้นได้
  2. ริ้วรอย – รอยย่นที่หางตาและใต้ตา ซึ่งส่วนใหญ่แก้ไขได้ด้วยการใช้โบท็อกซ์หรือฉีดฟิลเลอร์ และหากริ้วรอยเป็นริ้วรอยถาวรแล้ว การรักษาโดยวิธีทั่วไปอาจไม่เพียงพอ ต้องยกกระชับด้วยการทำ Cinderella Eyes
  3. ร่องน้ำตา – เกิดจากชั้นไขมันรอบดวงตาหดตัวลง ทำให้เกิดร่องลึกใต้ดวงตา เรียกว่าร่องน้ำตา โดยปกติร่องนี้สามารถแก้ไขเบื้องต้นโดยการใช้ฟิลเลอร์ แต่หากมีความรุนแรงมาก หรือเป็นร่องจากการที่ผิวขาดความกระชับ จำเป็นต้องทำ Cinderella Eyes ควบคู่กันไป
  4. ถุงใต้ตา – คือการมีผิวรอบดวงตาหย่อนคล้อยมาก และมีไขมันส่วนเกินเข้าไปสะสมบริเวณรอบดวงตา จนเกิดเป็นถุงใต้ตา
  5. หางตา หรือคิ้วตก – เกิดจากผิวหนังรอบดวงตา หนังตา และหน้าผากหย่อนคล้อย ขาดคอลลาเจน จนขาดแรงพยุงขึ้น แก้ไขได้โดยการทำ Cinderella Eyes เพื่อยึดผิวหนังบริเวณนั้นๆขึ้น และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนชั้นใหม่

✔️ ลดความหมองคล้ำใต้ตา
✔️ ลดริ้วรอย รอยย่นใต้ตา
✔️ อยู่ได้นานประมาน 2 ปี
✔️ เติมเต็มอย่างเป็นธรรมชาติ

การทำงานของ Cinderella Eyes

  1. เมื่อเส้นไหมเข้าไปใต้ชั้นผิวหนัง ร่างกายจะส่งสัญญาณให้เกิดการรักษาตัวเองโดยจะกระตุ้นคอลลาเจนและเนื้อเยื่อใหม่ล้อมรอบรอบเส้นไหมทุกผิวสัมผัสของเส้นไหม โดยเฉพาะผิวสัมผัสด้านในของเส้นไหมจะสร้าง volume ให้แก่ผิว
  2. เส้นไหมจะละลายไปเองตามธรรมชาติแต่ชั้นคอลลาเจนที่เกิดขึ้นใหม่ยังคงอยู่เหมือนเดิม
  3. ริ้วรอย ร่องลึก ถูกเติมเต็มด้วยชั้นผิวหนังที่สร้างขึ้นใหม่
  4. ผิวที่หย่อนคล้อย เกิดการตึงตัวและยืดหยุ่นมากขึ้น

ขั้นตอนการทำ Cinderella Eyes

  1. ทำความสะอาดหน้า
  2. ทายาชา รอยาชาออกฤทธิ์ 30 นาที หรือสำหรับคนที่ไม่ต้องการทายาชาสามารถประคบเย็นเพื่อให้ชาก่อนทำได้
  3. แพทย์จะทำการประเมิณ และกำหนดจุดที่จะรักษา
  4. ฉีดไหม Cinderella Eyes (ก่อนฉีดไหมจะประคบเย็นอีกครั้งเพื่อบรรเทาความเจ็บ)

ความรู้สึกขณะทำมีความเจ็บน้อยมาก เพราะด้วยฤทธ์ของยาชา เข็มที่มีขนาดเล็ก และการประคบเย็นก่อนฉีด อาจจะมีความรู้สึกเจ็บคล้ายกับมดกัดเท่านั้น

Cinderella Eyes เหมาะกับใคร

  • ปัญหารอบดวงตา ใต้ตาคล้ำ ถุงใต้ตาบวม หย่อนคล้อย
  • ปัญหาร่องน้ำตาลึก ทำให้ใบหน้ามีริ้วรอย
  • ผู้ที่ต้องการยกหางตา ยกคิ้ว ยกเปลือกตา

รีวิวก่อนและหลังทำ

สามารถแอดไลน์เพื่อปรึกษาหรือสอบถามโปรโมชั่นพิเศษของทางคลินิก ฟรี เพียง Click ที่ลิ้งค์:

Related Articles

ฉีดวิตามินผิว กับ ดริปวิตามินผิว ต่างกันอย่างไร อันตรายไหม กี่ครั้งเห็นผล อยู่ได้นานแค่ไหน

ปัจจุบันที่เราต้องเผชิญกับ การพักผ่อนที่ไม่เพียงพอ ก็ล้วนแล้วแต่ส่งผลกับสุขภาพผิวของเราแทบทั้งสิ้น อีกทั้งอาหารที่เรารับประทานในแต่ละวันก็อาจทำให้เราไม่ได้รับวิตามินในปริมาณที่เพียงพอต่อร่างกาย ก็อาจทำให้ผิวของเราหมองคล้ำ ดูไม่มีชีวิตชีวา การเสริมด้วยวิตามินเข้มข้น ก็จะช่วยให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งขึ้นมาได้ Table of Contents ดริปวิตามิน (Vitamin Drip) คืออะไร การดริปวิตามิน (Vitamin Drip) ก็คือ วิธีการให้อาหารเสริมในรูปแบบวิตามินและแร่ธาตุผ่านทางหลอดเลือดดำ (Intravenous Therapy) โดยการผสมวิตามินเข้ากับน้ำเกลือ และส่งเข้าสู่กระแสเลือดโดยตรงผ่านสาย IV วิธีนี้ช่วยให้ร่างกายได้รับสารอาหารในปริมาณที่เข้มข้น และสามารถดูดซึมได้ทันทีโดยไม่ต้องผ่านกระบวนการย่อยในระบบทางเดินอาหาร อีกทั้งวิตามินที่ได้รับนั้น ยังมีปริมาณที่มากกว่า เมื่อเทียบกับการกินวิตามิน เพราะการกินวิตามินอาจถูกจำกัดหรือสูญเสียวิตามินบางส่วนไป ผ่านการดูดซึมของลำไส้ นอกจากนี้ การดริปวิตามินยังให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนและรวดเร็วกว่า ทำให้ร่างกายที่อ่อนล้านั้น ได้รับการฟื้นฟูได้อย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้น ฉีดวิตามินผิว กับ ดริปวิตามิน (Vitamin Drip) ต่างกันอย่างไร การฉีดวิตามินผิว และ ดริปวิตามิน (Vitamin Drip) นั้น ต่างก็มีจุดมุ่งหมายเดียวกันคือการฟื้นฟูและเพิ่มความเปล่งปลั่ง มีชีวิตชีวาให้แก่ให้ผิว แต่มีความแตกต่างในกระบวนการและผลลัพธ์ที่ได้ การฉีดวิตามินผิวจะเป็นการการฉีดวิตามินในปริมาณที่กำหนดเข้าสู่หลอดเลือดดำผ่านไซริงค์ โดยแพทย์จะเป็นผู้ทำการฉีดให้ ซึ่งต้องใช้ความชำนาญสูง ทำให้มีความเสี่ยงหากมีการผลักตัวยาเร็วเกินไป

รวมคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Exosome อัปเดตข้อมูล Exosome ปี 2024

Exosome สกินบูสเตอร์ตัวดังที่ยังคงกระแสมาแรงอย่างต่อเนื่องด้วยคุณสมบัติอันแสนโดดเด่นของ Exosome ที่ตัวยามีค่าความบริสุทธิ์สูงและมีอนุภาคขนาดเล็กเพียง 30-150 nm. ซึ่งภายในอัดแน่นไปด้วยสารชีวโมเลกุลที่จำเป็นต่อผิวมากกว่า 1,000 ชนิด การทำ Exosome หรือ Exosome Treatment จึงเป็นหัตถการที่ช่วยฟื้นฟูผิวได้อย่างล้ำลึก ทำให้เซลล์ผิวแข็งแรงและอ่อนเยาว์มากขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ให้คุณเป็นเจ้าของผิวสวยดูเปล่งปลั่งราวกับกระจก (Glass Skin) ที่ใครๆ ต่างก็ใฝ่ฝัน Exosome ช่วยเรื่องอะไร? Exosome เหมือนกับ Stem Cell ไหม อันตรายหรือเปล่า บทความนี้จาก LINNA Clinic ชวนไขข้อสงสัยทุกคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Exosome ฉบับอัปเดตปี 2024 Table of Contents Exosome ช่วยเรื่องอะไร ตัวยา Exosome ที่สกัดได้จากเซลล์ต้นกำเนิดของสิ่งมีชีวิตอัดแน่นด้วยสารชีวโมเลกุลรวมกว่า 1,000 ชนิด เช่น Amino acids, Nucleic acids, Hyaluronic acid (HA) Growth

Exosome กู้ผิวโทรมได้จริงหรือแค่กระแส ทำ Exosome อันตรายไหม?

เทรนด์ผิวสวยในปัจจุบันไม่ใช่แค่เพียงการเป็นเจ้าของผิวขาวใส มีออร่า แต่เป็นการมีคุณภาพผิว (Skin Quality) ที่ดูดีจากภายในสู่ภายนอก หากใครที่กำลังมองหาวิธีปรับหน้าโทรมให้กลายเป็นหน้าใส คืนความยืดหยุ่นชุ่มชื้นให้ผิวแข็งแรงได้อย่างล้ำลึกจากภายในต้องไม่พลาด Exosome สกินบูสเตอร์ตัวดังที่สามารถตรงเข้าฟื้นฟูเซลล์ผิวได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ Exosome คืออะไร? ดีจริงไหม ทำ Exosome อันตรายหรือเปล่า พร้อมวิธีดูแลตัวเองหลังทำ Exosome ดูคำตอบได้ในบทความนี้จาก LINNA Clinic Table of Contents Exosome คืออะไร Exosome (อ่านว่า เอ็กโซโซม) คือ นวัตกรรมใหม่ของการฟื้นบำรุงผิวอย่างล้ำลึกด้วยการใช้ Exosome ซึ่งสกัดแยกจากเซลล์ต้นกำเนิด (Stem Cell) ของสิ่งมีชีวิตด้วยเทคโนโลยี mRNA ทำให้ได้ Exosome บริสุทธิ์สูงและมีลักษณะเป็นถุงทรงกลมขนาดเล็ก 30-150 nm. ภายในอัดแน่นไปด้วยสารชีวโมเลกุลที่จำเป็นต่อกระบวนการซ่อมแซมและฟื้นฟูเซลล์ผิวตลอดไปจนถึงช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจน (Collagen) และเส้นใยอีลาสติน (Elastin) ใหม่ๆ ตามธรรมชาติของร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในปัจจุบันจึงนิยมทำ Exosome หรือที่เรียกว่าการทำ Exosome Treatment ตามจุดต่างๆ ทั่วใบหน้าเพื่อช่วยปรับปรุงและบำรุงผิวให้ดูเปล่งปลั่ง

Scroll to Top