Botox ยี่ห้อไหนดี แต่ละตัวต่างกันยังไง มาดูกัน!

มือใหม่ในการฉีด Botox เชิญอ่านทางนี้ค่า เพราะจริงๆแล้วการฉีด Botox แต่ละยี่ห้อมีความแตกต่างกันนะคะ อยากหน้าเรียวเป๊ะ ลดเลือนริ้วรอยอย่างปลอดภัยต้องอ่าน!!

โดยหลัก ๆ แล้ว Botox แต่ละยี่ห้อ จะแตกต่างกันที่ 3 ส่วนคือ ด้านระยะเวลาในการคงอยู่ของ Botox จะมีตั้งแต่ 4 เดือนไปจนถึง 1 ปี แล้วแต่ยี่ห้อของ Botox ต่อมาคือด้านความบริสุทธิ์ของตัวยา และสุดท้ายคือด้านความรู้สึกเมื่อฉีดไปแล้วจะมีความแข็ง ยกตึงที่แตกต่างกัน บางยี่ห้อฉีดแล้วจะเป็นธรรมชาติ ไม่แข็งตึง แต่บางรุ่นจะมีความยกตึง จนอาจทำให้ใบหน้าดูแข็งได้

ALLERGAN

เป็นต้นแบบของโบท็อกซ์ทุกชนิด ขึ้นชื่อเรื่องคุณภาพเป็นเลิศ เห็นผลชัดเจน มีความบริสุทธิ์และอ่อนโยนมากที่สุด หลังฉีดหน้าเรียวสวยเป็นธรรมชาติ ไม่แข็งตึง ด้วยตัวยาที่นำเข้าส่งตรงมาจากประเทศสหรัฐอเมริกา จึงมั่นใจเรื่องความปลอดภัยและผลลัพธ์หลังฉีดได้เลย Allergan เป็นโบท็อกซ์ที่เห็นผลนานที่สุด ลูกค้าส่วนใหญ่พึงพอใจในผลลัพธ์ของ Allergan มากที่สุดค่า

BOTULAX

เป็น Botox ยี่ห้อที่ราคาไม่แรง พร้อมคุณภาพที่ไม่แพ้ใคร ส่งตรงจากประเทศเกาหลี แต่ก่อนที่จะฉีด Botox ยี่ห้อนี้ต้องตรวจสอบให้ดีกันก่อนนะคะ เพราะตัว Botox Botulax มีของปลอมและของหิ้วระบาดอยู่เยอะ ซึ่งการตรวจสอบอาจเป็นเรื่องยากสำหรับลูกค้ามือใหม่ แต่ไม่ต้องกังวลใจหากมาฉีด Botox ที่ LINNA Clinic เพราะเราใช้โบท็อกซ์ของแท้ 100% ไม่มีหลอกตา ไม่มีเจือจาง ผ่านการรับรองจาก อย. ปลอดภัยชัวร์นะคะ

NEURONOX

เป็นโบท็อกซ์ที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย และมีคุณภาพค่อนข้างสูง เนื่องจาก Neuronox และ Allergan มาจากบริษัทเดียวกัน เพียงแต่ฐานการผลิตอยู่ที่ประเทศเกาหลี ตัวยาจึงมีคุณภาพใกล้เคียงกับ Allergan ส่วนในเรื่องของความอ่อนโยนและความบริสุทธิ์ หลังฉีดไปใบหน้าไม่แข็งตึง สามารถยิ้มได้อย่างนางงาม เรียกได้ว่าได้ของดีในราคาถูก คุณภาพแน่นจริงๆค่า

AESTOX

ยี่ห้อ AESTOX เป็น Botox จากประเทศเกาหลี ซึ่งตอนนี้ได้รับความนิยมสูงเช่นกัน และเป็นตัวใหม่ล่าสุดที่ได้รับการรับรองจาก อย.ไทยได้เพียงไม่นาน อาจจะยังไม่ค่อยคุ้นหูเท่าไหร่ แต่ผลลัพธ์ของการฉีดมีความเป็นธรรมชาติสูง หน้าดูไม่แข็ง เป็นอีกยี่ห้อที่ควรลองเลยค่า

DYSPORT

Dysport เป็นโบทูลินั่มท็อกซิน ที่มีต้นกำเนิดจากประเทศอังกฤษมีต้นกำเนิดตั้งแต่ ปี ค.ศ. 1986 โดยกลไกการทำงานก็คือการผ่อนคลายกล้ามเนื้อที่รัดผิวหนังให้เป็นรอยพับ รอยยับ รอยย่น ให้อ่อนแรง ทำให้ริ้วรอยต่างๆจะแลดูจางลง ตัว Dysport ผลิตจากเชื้อแบคทีเรีย Clostridium Botulinum สายพันธุ์ที่แตกต่างจากยี่ห้ออื่นๆ ที่ทำให้มีคุณลักษณะเฉพาะด้านการกระจายตัวของยา ทำให้ลดเลือนริ้วรอยได้อย่างเรียบเนียนกว่า ขจัดได้แม้แต่ริ้วรอยเล็กๆทั่วใบหน้า เห็นผลเร็วกว่า อยู่ได้นานกว่า และดูเป็นธรรมชาติมากกว่า และด้วยเทคนิคการฉีดที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของ Dysport ที่เรียกว่า การลิฟท์หน้า ซึ่งเป็นเทคนิคการฉีดเฉพาะ ทำให้เห็นผลหลังฉีดเร็วมาก ประมาณ 3-5 นาทีหลังฉีด เรียกว่าเห็นผลได้แทบจะทันทีเลย หลังฉีดแล้วสามารถขยับหรือแสดงสีหน้าได้อย่างเป็นธรรมชาติ ไม่แข็ง เรียกได้ว่าเป็นตัวลิฟท์หน้าที่ดีที่สุดเลยก็ว่าได้

ความแตกต่างโบท็อกซ์เกาหลีกับอเมริกา มีอะไรบ้าง

Botox อเมริกา จะเป็นแบรนด์แรกของโลก (Allergan) ซึ่งแน่นอนว่ามีการใช้ในโรงพยาบาลที่เป็นที่ยอมรับทั่วโลก รวมไปถึงงานวิจัยที่เยอะกว่า รวมทั้งมีความบริสุทธิ์ของตัวยาสูงลดการเสี่ยงดื้อยาหรือดื้อ Botox ในระยะยาว และ สำหรับใครที่ชอบความเป็นธรรมชาติ ดูหน้าไม่แข็ง Botox อเมริกาตอบโจทย์แน่นอน

Botox เกาหลี โดดเด่นมากก็คือราคาจับต้องได้ไม่แพง คุณภาพนั้นก็มีความไกล้เคียงกับอเมริกา ซึ่งปัจจุบันก็มีหลายยี่ห้อมากมายจากเกาหลี ซึ่งชูจุดเด่นแตกต่างกัน แต่หากสังเกตุจากการใช้งานแล้ว Botox เกาหลียังอาจจะมีฉีดแล้วหน้าดูแข็ง ไม่ค่อยเป็นธรรมชาติได้บ้าง แต่เห็นผลดีสำหรับกล้ามเนื้อมัดใหญ่ เช่น กรามหรือน่องเนื่องจากโมเลกุลของ Botox ใหญ่กว่าอเมริกานั่นเองค่า

LINNA BOTOX RESULTS

Related Articles

แนะนำ 6 วิธีกระชับรูขุมขนแบบไว เห็นผลจริง แถมหน้าใสขึ้นด้วย

ปัญหารูขุมขนกว้างมักทำให้ผิวหน้าดูไม่เรียบเนียนและเป็นสาเหตุของการเกิดสิวหรือหน้ามันได้ง่าย การกระชับรูขุมขนและปรับสภาพผิวให้ดูเรียบเนียนขึ้นจึงเป็นสิ่งที่หลายคนต้องการ หากคุณกำลังมองหาวิธีที่ได้ผลเร็วและเห็นการเปลี่ยนแปลงชัดเจน มาดู 5 วิธีที่ช่วยกระชับรูขุมขนแบบไว พร้อมเพิ่มความกระจ่างใสให้กับผิวหน้า 1. ทำความสะอาดผิวหน้าอย่างล้ำลึกด้วยโทนเนอร์ที่มีกรดซาลิไซลิก การทำความสะอาดรูขุมขนเป็นขั้นตอนสำคัญในการลดความมันและสิ่งสกปรกที่อุดตัน โทนเนอร์ที่มีส่วนผสมของกรดซาลิไซลิก (Salicylic Acid) ช่วยละลายคราบมันและสิ่งสกปรกในรูขุมขน ลดการเกิดสิว และกระชับรูขุมขนเมื่อใช้อย่างต่อเนื่อง แนะนำให้ใช้หลังจากล้างหน้าเพื่อเตรียมผิวสำหรับการบำรุงขั้นถัดไป นอกจากนี้ยังควรใช้ครีมกันแดดที่มี SPF อย่างน้อย 30+ อย่างเป็นประจำ รวมทั้งระมัดระวังในเรื่องของการใช้ร่วมกับผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ AHA/BHA อีกด้วย เพราะอาจทำให้ผิวแห้งหรือเกิดการระคายเคืองได้ 2. มาสก์โคลนเพื่อดูดซับน้ำมันส่วนเกิน มาสก์โคลนช่วยขจัดสิ่งสกปรกและน้ำมันที่อุดตันอยู่ในรูขุมขน ทำให้รูขุมขนดูกระชับและผิวหน้าสะอาดขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ควรใช้มาสก์โคลนสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง โดยปล่อยให้มาสก์โคลนแห้งบนผิวหน้า ใช้เวลาประมาณ 10-15 นาที ระหว่างนี้มาสก์จะทำหน้าที่ดูดซับน้ำมันและสิ่งสกปรกจากผิวหน้าลงสู่ชั้นล่าง เมื่อเริ่มรู้สึกว่ามาสก์แห้งและตึงผิว ควรล้างออกด้วยน้ำอุ่น การใช้มาส์กโคลนนั้น นอกจากจะช่วยขจัดสิ่งสกปรกบนผิวหน้าแล้ว ก็ยังช่วยปรับสภาพผิวให้เรียบเนียนขึ้น ลดความมันส่วนเกิน ช่วยกระชับรูขุมขน และทำให้ผิวหน้าดูสะอาดสดใสขึ้น 3. การใช้น้ำแข็งประคบผิวหน้าสำหรับการกระชับรูขุมขนทันที วิธีนี้ง่ายและได้ผลทันทีเมื่อคุณต้องการให้ผิวดูกระชับ โดยการนำผ้าสะอาดห่อน้ำแข็งแล้วประคบเบา ๆ บนผิวหน้า น้ำแข็งจะช่วยหดตัวรูขุมขนชั่วคราว ทำให้ผิวดูเรียบเนียนมากขึ้น เหมาะสำหรับใช้ก่อนแต่งหน้าเพื่อช่วยให้เมคอัพติดทนนาน

Ultraformer คืออะไร ราคาเท่าไหร่ ช่วยยกกระชับได้นานถึง 1 ปี จริงไหม

อยากมีผิวสวยกระชับ ดูเต่งตึง ไม่มีริ้วรอยร่องลึกและความเหี่ยวย่นต่างๆ คอยกวนใจแต่ไม่อยากผ่าตัดยกกระชับ ไม่อยากฉีดสารสังเคราะห์ทั้งพวกโบท็อกซ์ (Botox) หรือฟิลเลอร์ (Filler) เข้าสู่ร่างกายทำได้หรือไม่? โจทย์งานผิวจะยากเพียงใดแต่นวัตกรรมยกกระชับผิวอย่าง Ultraformer ก็เอาอยู่ด้วยสุดยอดเทคโนโลยีเพื่อผิวยกกระชับ ลดริ้วรอยและกระตุ้นคอลลาเจนใหม่ๆ ใต้ชั้นผิวได้อย่างดีเยี่ยมโดยไม่ต้องผ่าตัด เห็นผลการเปลี่ยนแปลงได้ภายในครั้งแรกที่ทำ สำหรับใครที่ต้องการยกกระชับผิวให้สวยหล่อดูมั่นใจมากขึ้นและกำลังมีแพลนทำ Ultraformer แต่ยังไม่มั่นใจว่า Ultraformer ดีจริงไหม ราคาเท่าไหร่ หลังทำ Ultraformer ช่วยคงผลลัพธ์ผิวยกกระชับได้นานถึง 1 ปี จริงไหม? มาดูทุกคำตอบไปพร้อมๆ กันได้ในบทความนี้จาก Linna Clinic (ลินนา คลินิก) Table of Contents Ultraformer คืออะไร? Ultraformer (อัลตราฟอร์เมอร์) คือ เทคโนโลยีเพื่อการยกกระชับผิวหน้า ปรับรูปหน้าให้เรียวสวยได้ทรงวีเชฟ (V-shape) โดยไม่ต้องผ่าตัดด้วยการยิงคลื่นเสียงอัลตราซาวด์ความเข้มข้นสูงและมีความเฉพาะเจาะจงแบบ MMFU (Micro & Macro Focus Ultrasound) เข้าสู่ชั้นใต้ผิวหนังและสามารถลงลึกถึงชั้นกล้ามเนื้อส่วนบนหรือผิวชั้น SMAS (Superficial Muscular

โหงวเฮ้งผู้หญิง มีเสน่ห์ โหงวเฮ้งใบหน้า ผู้หญิง เสริมเสน่ห์ สร้างบารมี ปรับหน้าสวยทั้งทีต้องดีทุกด้าน

โหงวเฮ้งผู้หญิง มีเสน่ห์ ความสวยที่ไม่ใช่แค่เพียงถูกหลักความงามทางวิทยาศาสตร์อย่าง Golden Ratio แต่ยังต้องสอดคล้องเข้ากับหลักโหงวเฮ้ง (Mien Shiang) ศาสตร์ของการทำนายทายทักคุณสมบัติและอุปนิสัยของแต่ละบุคคลได้จากลักษณะภายนอก มากไปกว่านั้นคุณผู้หญิงหลายๆ ท่านยังมีความเชื่อว่าโหงวเฮ้งใบหน้าที่ดีจะช่วยเสริมสร้างเสน่ห์ทำให้ใบหน้าสวยงามน่ามองทั้งยังเป็นการช่วยเติมเต็มพลังบวกดึงดูดแต่เรื่องดีๆ ส่งเสริมให้ประสบความสำเร็จในหลากหลายด้านของชีวิตไม่ว่าจะเป็นการเงิน การงาน สุขภาพ ความรักและครอบครัว สาวๆ คนไหนที่กำลังศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโหงวเฮ้งใบหน้า ผู้หญิง โหงวเฮ้งผู้หญิง มีเสน่ห์ ต้องเป็นแบบไหน? ปรับโหงวเฮ้งใบหน้าให้ดีขึ้น ทำได้อย่างไร? ตามมาเสริมพลังความสวยด้วยหลักโหงวเฮ้งใบหน้าในบทความนี้ของลินนา คลินิก (LINNA Clinic) กันได้เลยค่ะ ลักษณะโหงวเฮ้งผู้หญิง มีเสน่ห์ ใบหน้าผู้หญิง ที่ดีต้องเป็นอย่างไร? หากอิงจากตำราความเชื่อของชาวจีนแล้วนั้นลักษณะโหงวเฮ้งใบหน้า ผู้หญิงที่สวยและมีเสน่ห์ประกอบไปด้วย 5 ส่วนสำคัญ ได้แก่ หน้าผาก ตา จมูก ปาก และคาง โดยที่ทุกอย่างจะต้องมีสัดส่วนที่สมดุลรับเข้ากันได้อย่างพอเหมาะ ดังนี้ หน้าผาก หน้าผากนับเป็นส่วนที่อยู่ด้านบนสุดของใบหน้าจึงเปรียบเสมือนจุดพลังงานสำคัญที่จะช่วยเสริมโชคชะตา โหงวเฮ้งผู้หญิง มีเสน่ห์ ที่บริเวณหน้าผากต้องมีลักษณะกลมมน มีความโหนกนูนในระดับที่พอเหมาะไม่ยกสูงหรือราบเรียบจนเกินไป และที่สำคัญโหงวเฮ้งหน้าผากผู้หญิงที่ดูดี ช่วยเพิ่มบารมี โชคลาภวาสนาจะต้องเป็นหน้าผากที่ดูเกลี้ยงเกลา ไม่มีรอยบุ๋ม ไม่มีรอยแผลเป็นหรือริ้วรอยร่องลึกต่างๆ

Scroll to Top