- -

8 ข้อควรรู้ก่อนฉีดโบท็อก (Botox)

การฉีดโบท็อกเป็นวิธีการรักษาที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน เพราะทำได้ง่ายและไว และมีผลลัพธ์ที่ชัดเจน ทั้งนี้หมอขอมาอธิบายรายละเอียดและข้อดีข้อเสียที่แตกต่างกันออกไปดังนี้ค่ะ Table of Contents 1. ข้อดี ข้อเสีย และผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นจากการฉีดโบท็อก (Botox) ข้อดีของโบท็อก (Botox) ช่วยลดเลือนริ้วรอยที่เกิดจากการแสดงสีหน้า เช่น รอยย่นหน้าผาก รอยระหว่างคิ้ว หางตา และรอยตีนกา • ปรับรูปหน้าให้เรียวขึ้น โดยทำให้กล้ามเนื้อมัดกรามมีขนาดเล็กลง กรอบหน้าดูชัดเจน • สามารถใช้ยกกระชับกรอบหน้าได้ ทำให้กรอบชัดและผิวยกกระชับ • ช่วยให้หน้าใสขึ้นด้วยการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้ชั้นผิวได้ • ช่วยกระชับรูขุมขนได้ดี • ช่วยลดภาวะเหงื่อออกมากเกินปกติ ตามรักแร้ มือ เท้า ได้ ลดกลิ่นตัวที่มาจากความอับชื้น • ช่วยเรื่อง Office Syndrome กล้ามเนื้อคอแข็ง ได้ • สามารถทำได้โดยไม่ต้องพักฟื้น • เห็นผลได้อย่างรวดเร็ว ข้อเสียของโบท็อก (Botox) • ไม่ใช่การรักษาที่ถาวร ควรทำต่อเนื่อง 4-6 เดือนขึ้นไปสามารถย้ำได้ […]

8 ข้อควรรู้ก่อนฉีดโบท็อก (Botox) Read More »

โบท็อก (Botox) คืออะไรทำงานอย่างไร อันตรายไหม แพ้ได้ไหม คุ้มค่าไหม

โบท็อก (Botox) คือ ชื่อทางการค้าของ โบทูลินั่ม ท็อกซิน เอ (Botulinum Toxin Type A) ซึ่งเป็นโปรตีนบริสุทธิ์ที่สกัดจากแบคทีเรียชนิดหนึ่ง ชื่อว่า คลอสตริเดียม โบทูลินัม (Clostridium botulinum) แม้จะเป็นสารพิษ แต่เมื่อใช้ในปริมาณที่เหมาะสม แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะนำมาฉีดเพื่อประโยชน์ด้านความงามและการแพทย์ โดยออกฤทธิ์ยับยั้งการทำงานของระบบประสาทบริเวณปลายประสาทที่ไปเลี้ยงกล้ามเนื้อ ทำให้กล้ามเนื้อบริเวณที่ได้รับการฉีดไม่สามารถหดตัวได้ชั่วคราวส่งผลให้ริ้วรอยบนใบหน้าจางลง ใบหน้าเรียวขึ้นและสามารถรักษาโรคบางชนิดได้อีกด้วยค่ะ Table of Contents โบท็อก (Botox) มีกระบวนการทำงานอย่างไร หลายท่านอาจสงสัยว่าโบท็อก (Botox) ทำงานอย่างไร ดังนั้นหมอขอชี้แจงดังนี้ค่ะ เริ่มจากแพทย์จะใช้เข็มขนาดเล็กฉีดโบท็อกเข้าไปยังบริเวณชั้นกล้ามเนื้อที่ต้องการ โดยความลึกของเข็มจะขึ้นอยู่กับตำแหน่งของกล้ามเนื้อ จากนั้นโบท็อกจะเข้าสู่ปลายประสาทที่ไปเลี้ยงกล้ามเนื้อ โบท็อกจะยับยั้งการปล่อยสารสื่อประสาท อะเซทิลโคลีน (acetylcholine) ซึ่งเป็นสารที่ทำหน้าที่ในการส่งสัญญาณจากปลายประสาทไปยังกล้ามเนื้อ เมื่อไม่มีอะเซทิลโคลีน กล้ามเนื้อจะไม่สามารถหดตัวได้ เนื่องจากกล้ามเนื้อไม่สามารถหดตัวได้ จึงส่งผลให้ริ้วรอยบนใบหน้าจึงจางลงค่ะ ผลลัพธ์– ผลของการฉีดโบท็อก (Botox) จะเริ่มเห็นภายใน 3-7 วัน– ผลของการฉีดโบท็อก (Botox) จะคงอยู่ประมาณ 3-6 เดือน

โบท็อก (Botox) คืออะไรทำงานอย่างไร อันตรายไหม แพ้ได้ไหม คุ้มค่าไหม Read More »

วิธีใช้เครื่อง HIFU ในการยกกระชับใบหน้า

 ทำความสะอาดใบหน้าให้สะอาดและแห้ง ทาเจลหล่อลื่นบนใบหน้าบริเวณที่ต้องการทำ HIFU เลือกหัวยิงให้เหมาะกับบริเวณที่ต้องการทำ HIFU วางหัวยิงบนใบหน้าและกดปุ่มเพื่อเริ่มทำ HIFU เคลื่อนหัวยิงไปตามบริเวณที่ต้องการทำ HIFU โดยกดปุ่มยิงแต่ละจุดค้างไว้จนกว่าเสียงติ๊ดจะดังขึ้น ทำซ้ำขั้นตอน 5-6 กับบริเวณอื่น ๆ ที่ต้องการทำ HIFU ระยะเวลาในการทำ HIFU ขึ้นอยู่กับบริเวณที่ทำและระดับความลึกที่ต้องการยิง โดยปกติจะใช้เวลาแปะยาชาทิ้งไว้ 30 นาที และใช้เวลาทำอีกประมาณ 30-60 นาที แต่การทำไฮฟู่ที่ ลินนาคลินิก (LINNA CLINIC) ทั่วทั้งใบหน้าระยะเวลาอยู่ที่ 15 นาทีโดยที่ไม่ต้องแปะยาชา หลังทำ HIFU บางท่านอาจจะมีอาการบวมแดงเล็กน้อย ซึ่งจะหายไปเองภายใน 1-2 วัน ผลลัพธ์ของการยกกระชับใบหน้าจะเห็นได้ชัดเจนขึ้นภายใน 1-3 เดือน และผลลัพธ์จะคงอยู่ได้นานประมาณ 6-12 เดือน Table of Contents ข้อควรระวังในการทำ HIFU ห้ามทำ HIFU ในบริเวณที่มีแผลเปิดหรืออักเสบ ห้ามทำ HIFU ในบริเวณที่มีโลหะฝังอยู่

วิธีใช้เครื่อง HIFU ในการยกกระชับใบหน้า Read More »

รู้ก่อนฉีด Aestox botox กับ Nabota botox แบบไหนดีกว่ากัน

Table of Contents Botox เป็น Botulinum Toxin Type A ที่มีคุณสมบัติในการช่วยยับยั้งการทำงานของกล้ามเนื้อ โดยจะฉีดเข้าไปยังส่วนที่มีปัญหา ไม่ว่าจะเป็น บริเวณหน้าผาก หางตา รอยย่นระหว่างคิ้ว ร่องแก้ม ร่องลึกใต้ตา เพื่อช่วยในการลดริ้วรอย ปรับรูปหน้าให้เรียวสวย และลดเหงื่อ เป็นต้น ทำให้โบทอกซ์กลายเป็นสารที่มีบทบาทสำคัญในด้านความงามเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการช่วยลดริ้วรอย, การปรับรูปหน้า ไปจนถึงการฉีดเพื่อลดการเกิดเหงื่อ ทั้งในบริเวณรักแร้, ฝ่ามือ, ฝ่าเท้า เป็นต้น นอกจากนี้ โบท็อกซ์ยังสามารถช่วยรักษาอาการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับกล้ามเนื้อ เช่น ไมเกรน ภาวะเกร็งกล้ามเนื้อคอ เป็นต้น โบท็อกซ์จึงเป็นเครื่องมือเสริมความงามที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน เนื่องจากมีประสิทธิภาพในการลดริ้วรอย ปรับรูปหน้า และลดเหงื่อได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังเป็นวิธีที่ปลอดภัยและไม่ต้องพักฟื้น รู้จักกับ Aestox botox และ Nabota botox ในปัจจุบัน โบท็อกซ์มีจำหน่ายหลายยี่ห้อ ซึ่งแต่ละยี่ห้อก็มีจุดเด่นและข้อดีที่แตกต่างกันไป โดยบทความนี้จะมาเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่าง Aestox Botox กับ Nabota

รู้ก่อนฉีด Aestox botox กับ Nabota botox แบบไหนดีกว่ากัน Read More »

ความแตกต่างระหว่างHIFU vs Botox เลือกแบบไหนโดนใจมากกว่ากัน

ด้วยเทคโนโลยีที่พัฒนาอย่างต่อเนื่องทำให้ปัจจุบันการทำหัตถการเพื่อดูแลใบหน้า ผิวพรรณ ความสวยความงามเดินหน้าไปไกลมาก ซึ่งหลายคนน่าจะคุ้นเคยหรือได้ยินกันบ่อย ๆ ทั้งวิธีที่เรียกว่า HIFU รวมถึงวิธียอดฮิตอย่าง Botox (โบท็อกซ์) คำถามคือทั้ง 2 รูปแบบมีความแตกต่างกันอย่างไร แล้วควรเลือกแบบไหนให้ตอบโจทย์กับตนเองมากที่สุด มาหาคำตอบกันได้เลย HIFU คืออะไร มีหลักการทำงานอย่างไร? HIFU (High Intensity Focused Ultrasound) คือ นวัตกรรมที่ถูกพัฒนาขึ้นโดยอาศัยคลื่นอัลตราซาวด์ระดับความเข้มข้นสูง จุดประสงค์สำคัญเพื่อต้องการให้เกิดการยกกระชับผิว หลักการทำงานเมื่อยิงคลื่นกระทบสู่ชั้นผิวจะเกิดความร้อนสะสมประมาณ 60-70 องศาเซลเซียส ส่งผลให้เนื้อเยื่อเกิดการหดตัว คอลลาเจนใต้ชั้นผิวถูกกระตุ้นให้ผลิตมากขึ้น จึงมีส่วนในการลดเลือนริ้วรอย ลิฟต์กรอบหน้าเรียว ยกกระชับแก้ม เหนียง ต้นแขน ต้นขา สะโพก หน้าท้อง เอว ใต้ดวงตา เปลือกตาบน หน้าผาก ลำคอ ฯลฯ ผ่านการรับรองจาก USFDA (องค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา) ที่สำคัญไม่เจ็บตัว ไม่มีแผล หรือเสียเวลาพักฟื้นใด ๆ ทั้งสิ้น Botox คืออะไร

ความแตกต่างระหว่างHIFU vs Botox เลือกแบบไหนโดนใจมากกว่ากัน Read More »

5 เคล็ดลับแก้ปัญหามือเหี่ยว ให้มือกลับมาเนียนนุ่ม อ่อนเยาว์เหมือนมือเด็ก

ผิวบริเวณมือ หรือหลังมือ เป็นส่วนที่ใครหลายคนอาจมองข้ามไป เพราะเป็นบริเวณที่ไม่โดดเด่น สังเกตเห็นได้ยาก แต่ทราบหรือไม่คะว่าผิวมือ หรือผิวบริเวณหลังมือสามารถบ่งบอกอายุของเราได้เป็นอย่างดีเลยละค่ะ เพราะผิวมือที่ขาดการดูแลและบำรุงอย่างเหมาะสม จะเหี่ยวย่นและดูแก่ไปตามวัย ประกอบกับอีกหลายๆ ปัจจัย ทั้งพฤติกรรมการใช้มือในชีวิตประจำวัน การสัมผัสสารเคมี และการละเลยไม่ค่อยบำรุงผิวมือ ที่ยิ่งทำให้มือของเราดูเหี่ยวย่น ดูแก่และดูมีอายุ สำหรับใครที่กำลังกลุ้มใจเกี่ยวกับปัญหานี้ และกำลังมองหาวิธีแก้ปัญหามือเหี่ยว ให้มือกลับมาอวบอิ่ม ดูเต่งตึงอีกครั้ง Linna Clinic รวบรวมคำตอบมาไว้ในบทความนี้แล้วค่ะ 1. สาเหตุมือเหี่ยว มือแก่กว่าวัย ปัญหามือเหี่ยว ผิวมือแก่ มือดูไม่กระชับ อาจเกิดขึ้นได้จากหลากหลายสาเหตุ ดังนี้ ปัจจัยภายในร่างกายที่ทำให้มือเหี่ยว อายุที่เพิ่มมากขึ้น อย่างที่เราทราบกันดีค่ะว่าในขณะที่อายุของเราเพิ่มขึ้นทุกปี ร่างกายจะผลิตคอลลาเจนและอิลาสตินได้น้อยลงเรื่อย ๆ จนถึงระดับหนึ่งผิวของเราจะเริ่มสูญเสียความยืดหยุ่น ไม่คงตัว เกิดริ้วรอย และความเหี่ยวย่นที่สังเกตเห็นได้อย่างชัดเจน ประกอบกับการสลายตัวของมวลกล้ามเนื้อ ทำให้ผิวยิ่งสูญเสียความกระชับ พฤติกรรมการรับประทานอาหารและการดื่มน้ำ อาหารบางชนิดมีส่วนกระตุ้นให้ผิวขาดความชุ่มชื้น ผิวแห้งกร้าน เกิดรอยเหี่ยวย่นที่เห็นได้ชัดมากขึ้น เช่น น้ำตาล คาเฟอีน เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อาหารแปรรูป อาหารทอดน้ำมันชุ่มๆ ฯลฯ รวมถึงการดื่มน้ำน้อยจนเกินไป ก็มีส่วนทำให้ปัญหาผิวแห้งเสียรุนแรงมากขึ้นได้ค่ะ

5 เคล็ดลับแก้ปัญหามือเหี่ยว ให้มือกลับมาเนียนนุ่ม อ่อนเยาว์เหมือนมือเด็ก Read More »

Mesofat คือ เมโสแฟตคืออะไร อันตรายไหม มีข้อดีข้อเสียอย่างไร กี่วันสลายไขมัน สิ่งที่ต้องรู้ก่อนฉีด

เมโสแฟต (Mesofat) หรือ ฉีดแฟต หัตถการลดไขมันเฉพาะส่วนที่กำลังมาแรงมากที่สุดในช่วงนี้ เพราะเมโสแฟตเป็นหัตถการช่วยสลายไขมันเฉพาะจุดที่ใช้แค่เพียงการฉีด ไม่ต้องผ่าตัดใหญ่ ไม่ต้องใช้เวลาพักฟื้นหลายวันเหมือนการลดไขมันด้วยวิธีอื่นๆ  ช่วยลดไขมันสะสมได้หลากหลายบริเวณ ตอบโจทย์ตรงใจคนที่ต้องการลดไขมันเฉพาะส่วนลงในช่วงระยะเวลาสั้นๆ หรือผู้ที่พยายามลดน้ำหนักและลดไขมันเฉพาะส่วนด้วยตัวเองมาแล้วแต่ยังไม่เห็นผล ไม่ว่าจะเป็นการฉีดเมโสแฟตลดแก้ม ลดเหนียง ฉีดเมโสแฟตลดหน้าท้อง ลดต้นแขน ต้นขา ฯลฯ สำหรับใครที่กำลังสนใจอยากลดไขมันเฉพาะจุดและกำลังหาข้อมูลเกี่ยวกับเมโสแฟต เมโสแฟตช่วยเรื่องอะไร? เมโสแฟต อันตรายไหม? เมโสแฟตกี่วันเห็นผล? Linna Clinic (ลินนา คลินิก) รวมทุกสิ่งที่ต้องรู้ก่อนฉีดเมโสแฟตเอาไว้แบบจบครบในบทความนี้ Table of Contents เมโสแฟต (Mesofat) คืออะไร การฉีดเมโสแฟต หรือฉีดแฟต คือ การฉีดตัวยาที่ออกฤทธิ์สลายไขมันเข้าสู่ชั้นไขมันใต้ผิวหนัง ทำให้ไขมันในบริเวณเป้าหมายแตกตัวและมีขนาดเล็กลง จากนั้นไขมันเหล่านั้นจะถูกขับออกจากร่างกายผ่านทางปัสสาวะและอุจจาระ ส่งผลให้บริเวณที่เป้าหมายที่ฉีดเมโสแฟตมีไขมันน้อยลง เช่น ไขมันที่แก้ม ไขมันที่คางและเหนียง ไขมันหน้าท้อง ไขมันที่สะโพก ฯลฯ เมื่อโครงสร้างชั้นผิวมีขนาดเล็กลงสัดส่วนก็จะดูเรียวกระชับมากยิ่งขึ้น เมโสแฟต ช่วยเรื่องอะไร หลักๆ แล้วตัวยาเมโสแฟตจะมีส่วนผสมของวิตามินและตัวยาที่เป็นสารสกัดจากธรรมชาติเป็นหลัก ได้แก่ สารสกัดจากถั่วเหลือง ไข่แดง อาร์ติโช๊ค

Mesofat คือ เมโสแฟตคืออะไร อันตรายไหม มีข้อดีข้อเสียอย่างไร กี่วันสลายไขมัน สิ่งที่ต้องรู้ก่อนฉีด Read More »

5 อันดับคลินิกที่คนเลือกทำ Hifu ทำ Hifu ที่ไหนดี ปี 2023

Hifu เป็นอีกหนึ่งนวัตกรรมของการยกกระชับ และช่วยคืนความอ่อนเยาว์ให้กับผิว ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในปัจจุบัน เพราะเป็นหัตถการที่ทำได้ง่าย ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องใช้เข็ม ไม่ต้องเสียเวลาพักฟื้น ช่วยให้ผิวดูเต่งตึงขึ้นทันทีหลังทำ คงผลลัพธ์หลังการรักษาได้นาน 6-12 เดือน เรียกว่าเป็นหัตถการยกกระชับผิวที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของหนุ่มสาวยุคใหม่เป็นอย่างมาก Hifu ดีจริงไหม? เลือกทำ Hifu ที่คลินิกไหนดี?วันนี้ Linna Clinic รวม 5 อันดับคลินิกที่คนเลือกทำ Hifu มากที่สุดประจำปี 2023 มาฝากกัน จะมีคลินิกไหนบ้างไปดูกันเลยค่ะ 1. Linna clinic Linna Clinic คลินิกผู้นำความงามด้านผิวพรรณแบบครบวงจร โดดเด่นในเรื่องของการยกกระชับรูปหน้า ให้เรียวสวยและดูเป็นธรรมชาติ ด้วยนวัตกรรมไฮฟู่ 8D เทคโนโลยีแบบใหม่ล่าสุดของการทำ Hifu จากประเทศเกาหลี โดยเป็นเครื่อง Hifu ยี่ห้อ UltraV ใช้คลื่นพลังงานแบบ MMFU (Micro & Macro Focused) ทำให้แพทย์ผู้รักษาสามารถปรับใช้ค่าพลังงานได้ทั้งแบบจุด focus ขนาดเล็กและขนาดใหญ่ ช่วยให้รักษาได้อย่างแม่นยำและมีประสิทธิภาพ

5 อันดับคลินิกที่คนเลือกทำ Hifu ทำ Hifu ที่ไหนดี ปี 2023 Read More »

เปรียบเทียบการทำ-HIFU-กับการยกกระชับประเภทอื่นๆ

เปรียบเทียบการทำ HIFU กับการยกกระชับประเภทอื่นๆ

HIFU (High-Intensity Focused Ultrasound) เป็นเทคโนโลยีการยกกระชับผิวที่ใช้คลื่นอัลตราซาวด์ความเข้มข้นสูงในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใต้ผิวหนัง ทำให้ผิวหน้ากระชับขึ้นและริ้วรอยลดลง HIFU เป็นวิธีการยกกระชับผิวที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน เนื่องจากมีประสิทธิภาพ ปลอดภัย และราคาไม่แพงการทำ HIFU ยังสามารถเห็นผลลัพธ์ได้เร็วหลังทำ โดยสามารถเห็นผลลัพธ์ได้อย่างชัดเจนหลังทำเพียง 1 ครั้ง Table of Contents หลักการทำงานของ HIFU HIFU ใช้คลื่นอัลตราซาวด์ความเข้มข้นสูงในการส่งพลังงานไปที่ชั้นผิว SMAS (Superficial Musculo Aponeurotic System) ซึ่งเป็นชั้นผิวที่อยู่ลึกที่สุดของผิวหนัง ชั้นผิว SMAS เป็นชั้นผิวที่ทำหน้าที่พยุงกล้ามเนื้อใบหน้า หากชั้นผิว SMAS หย่อนคล้อย ใบหน้าก็จะหย่อนคล้อยตามไปด้วย HIFU จะช่วยกระตุ้นการหดตัวของชั้นผิว SMAS ทำให้ผิวหน้ากระชับขึ้น และยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใต้ผิวหนัง ทำให้ผิวเรียบเนียนขึ้นและดูอ่อนเยาว์ลง ผลลัพธ์ของ HIFU จะอยู่ได้นานประมาณ 6-12 เดือน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ เช่น อายุ สภาพผิว และการดูแลตัวเองหลังทำ HIFU หากต้องการให้ผลลัพธ์ของ HIFU

เปรียบเทียบการทำ HIFU กับการยกกระชับประเภทอื่นๆ Read More »

Scroll to Top