7 ความคิดผิดๆถูกๆ เกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์

1. ฟิลเลอร์เป็นสารตกค้าง ไม่สลาย

ฟิลเลอร์มีอยู่ด้วยกัน 3 ประเภทค่ะ และใน 1 ประเภทนั้นคือ ฟิลเลอร์แบบถาวรที่ไม่สามารถสลายไปเองได้ตามธรรมชาติอย่างซิลิโคนเหลว เมื่อฉีดเข้าไปแล้วจะเกาะแน่นเข้ากับเนื้อเยื่อในร่างกาย มีเพียงวิธีการผ่าตัดและขูดออกเท่านั้น หรือในบางกรณีอาจต้องตัดเอาเนื้อเยื่อที่ดีออกมาด้วย ดังนั้น ที่เคยได้ยินมาว่าฟิลเลอร์ตกค้างและไม่สลาย เป็นเพราะมันคือสารเติมเต็มแบบถาวร หรืออาจจะเป็นฟิลเลอร์ที่ไม่ได้มาตรฐานเท่านั้น หากเป็นฟิลเลอร์แท้จะไม่มีปัญหานี้แน่นอนค่ะ

2. ฟิลเลอร์สามารถไหลไปที่อื่นได้

หลังฉีดฟิลเลอร์ไปสักพักแล้วเกิดอาการฟิลเลอร์ไหลนั้น สาเหตุหลัก ๆ มีอยู่ 2 กรณีค่ะ

กรณีที่ 1 คือ การฉีดฟิลเลอร์โดยใช้ฟิลเลอร์ประเภทที่ให้ผลลัพธ์ถาวร เช่น ซิลิโคนเหลว หรือน้ำมันพาราฟิน จะเรียกว่า ฟิลเลอร์ปลอม สารสังเคราะห์ประเภทนี้จะคงอยู่ในร่างกายโดยไม่สามารถสลายไปเองได้ และเมื่อมันอยู่ใต้ผิวหนังนานจนเกินไป จึงมีการเคลื่อนตัวหรือที่ชอบเรียกกันว่าฟิลเลอร์ไหลนั่นเองค่ะ

กรณีที่ 2 คือ การฉีดฟิลเลอร์โดยเลือกฟิลเลอร์ไม่เหมาะกับบริเวณที่ต้องการ หรือฉีดฟิลเลอร์ด้วยความไม่ชำนาญทำให้สารเติมเต็มไปอยู่ในชั้นผิวที่ไม่ถูกต้องนั่นเองค่ะ ในส่วนของปัญหานี้เราต้องอาศัยความชำนาญ เชี่ยวชาญของแพทย์เป็นสำคัญ ซึ่งแพทย์แต่ละคนนั้นจะมีเทคนิคการฉีดฟิลเลอร์เป็นของตัวเองค่ะ แพทย์จะต้องรู้จักการมองภาพรวมใบหน้าและเข้าใจปัญหาของคนไข้ที่เข้ารับการฉีดฟิลเลอร์ ถึงจะทำให้การฉีดฟิลเลอร์ออกมาได้ผลลัพธ์ที่ดี ดูเป็นธรรมชาติ และไร้ซึ่งปัญหาอย่างการไหลของฟิลเลอร์หลังฉีด

3. ฟิลเลอร์ละลายเมื่อโดนความร้อน

ฟิลเลอร์สามารถละลายได้หากได้รับความร้อนที่มีอุณหภูมิสูง แต่ไม่ใช่ความร้อนที่เราใช้ชีวิตประจำวัน หากฉีดฟิลเลอร์มาแล้วไปทำเทอร์มาจ (Thermage) หรือ ไฮฟู่ (Hifu) ที่เป็นพลังงานความร้อนก็ไม่ทำให้ฟิลเลอร์ละลาย แต่อาจจะมีการเสื่อมสลายไปเร็วขึ้น การที่คุณหมอเตือนให้ระวังในเรื่องของความร้อนไม่ใช่ประเด็นของความร้อนจะทำให้ฟิลเลอร์สลาย แต่เป็นประเด็นของการบีบรัดของผิวหนังและกล้ามเนื้อในขณะที่โดนความร้อน เพราะถ้าอยู่ในที่ที่มีความร้อนสูง เช่น ซาวน่า การบีบรัดก็เหมือนกับการนวดคลึงอาจจะทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนตัว หรือไม่อยู่ในตำแหน่งที่คุณหมอได้วางไว้

ดังนั้นที่ห้ามอยู่ที่ร้อน ๆ ห้ามเข้าซาวน่าหลังฉีดฟิลเลอร์ ไม่ใช่เพราะจะทำให้ฟิลเลอร์ละลายแต่อาจจะส่งผลถึงผลลัพธ์ของการฉีดได้

4. ฟิลเลอร์ 1 หลอด สามารถฉีดได้ทุกที่

ฟิลเลอร์ 1 หลอด มีปริมาณ 1 cc หรือถ้าให้เห็นภาพก็คือขนาดเท่าน้ำตาลบนปลายช้อนชา เพราะฉะนั้นถ้าคุณมีปัญหาในปริมาณที่เยอะก็ไม่สามารถใช้ฟิลเลอร์ 1 หลอดในการฉีดทุกบริเวณได้ รวมถึงฟิลเลอร์ยังมีหลายชนิด หลายแบบเพื่อแก้ปัญหาที่แตกต่างกัน

ฟิลเลอร์ที่นิยมใช้ในปัจจุบัน คือสารไฮยาลูโรนิกแอซิด (Hyaluronic Acid) ซึ่งเป็นสารที่สังเคราะห์ขึ้นมาให้ใกล้เคียงกับที่มีอยู่แล้วในผิวหนัง โดยฟิลเลอร์จะแบ่งออกเป็นหลายระดับคือแข็ง กลาง และนิ่ม ก่อนจะฉีดคุณหมอจะต้องประเมิณก่อนว่าจุดที่มีปัญหาจะต้องใช้ฟิลเลอร์แบบไหน ดังนั้น ฟิลเลอร์ 1 หลอดจึงไม่เหมาะกับการฉีดทุกบริเวณ คุณหมอจะต้องพิจารณาเป็นเคส ๆ ไปค่ะ

5. ห้ามกินวิตามินก่อนมาฉีดฟิลเลอร์

จริง ๆ ก็ไม่ได้ห้ามเสียทีเดียวค่ะ แต่เป็นการขอความร่วมมือให้งดมากกว่า เพราะว่าวิตามินหรืออาหารเสริมบางชนิด อย่างเช่น วิตามินอี ยาแอสไพริน สารสกัดจากใบแปะก๊วยนั้น จะไปกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต ทำให้เลือดแข็งตัวช้า ในระหว่างฉีดฟิลเลอร์ คนไข้อาจจะเลือดไหลไม่หยุดได้ และเสี่ยงต่ออาการช้ำนั่นเองค่ะ

6. หลังฉีดฟิลเลอร์ห้ามนวดหน้า

หลังจากฉีดฟิลเลอร์ แล้วห้ามนวดหน้านั้น เป็นเพราะการนวดจะทำให้ฟิลเลอร์บริเวณที่ฉีดเคลื่อนตัว ไม่อยู่ในตำแหน่งที่คุณหมอฉีดให้ อาจจะทำให้ผลลัพธ์ไม่เป็นไปตามที่ต้องการ

7. ฉีดฟิลเลอร์สามารถทำให้ตาบอดได้

ฉีดฟิลเลอร์แล้วตาบอด ถึงจะเป็นเคสที่มีจำนวนน้อยแต่ก็เกิดขึ้นได้ สาเหตุเกิดจากสารฟิลเลอร์ที่ฉีดเข้าไปหลุดเข้าไปในกระแสเลือดแล้วบล็อคเส้นเลือด ซึ่งต้องระวังมากในผู้ที่ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก ฉีดฟิลเลอร์จมูก เพราะเป็นบริเวณที่มีเส้นเลือดพาดผ่านเป็นจำนวนมาก การฉีดฟิลเลอร์หน้าผากและจมูกจะต้องเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านการฉีดฟิลเลอร์เท่านั้น และแนะนำให้เลือกคลินิกที่ได้รับมาตรฐานด้วยนะคะ!

LINNA CLINIC FILLER RESULTS

Related Articles

HArmonyCa คืออะไร ช่วยเรื่องอะไร เหมาะกับใคร อันตรายไหม

ในยุคที่ผิวสวยไม่ใช่แค่เพียงความขาวกระจ่างใส แต่หมายถึงการดูแลสุขภาพผิวสุขภาพผิวอย่างล้ำลึก ครบมิติ HArmonyCa จึงกลายเป็นนวัตกรรมที่ตอบโจทย์งานผิวได้อย่างครบครัน ด้วยคุณสมบัติที่โดดเด่นในการเติมเต็มและฟื้นฟูโครงสร้างผิวในขั้นตอนเดียว โดยผสานสารสำคัญ 2 ชนิดเข้าด้วยกัน ได้แก่ Hyaluronic Acid (HA) ที่ช่วยเติมความชุ่มชื้นและลดเลือนริ้วรอยทันที และ Calcium Hydroxyapatite (CaHA) ที่กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ช่วยยกกระชับและเพิ่มความยืดหยุ่นในระยะยาว ทำให้ HArmonyCa™ กลายเป็นสารเติมเต็มผิวที่ถูกพูดถึงและได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน HArmonyCa คืออะไร? ช่วยเรื่องอะไร เหมาะกับใคร และ HArmonyCa ปลอดภัยหรือไม่? บทความนี้จาก LINNA Clinic (ลินนา คลินิก) มีคำตอบ Table of Contents HArmonyCa คืออะไร? HArmonyCa™ คือ ฟิลเลอร์ชนิดไฮบริด (Hybrid Filler) ที่ผสานคุณสมบัติของ กรดไฮยาลูรอนิก (Hyaluronic Acid :HA) และ แคลเซียมไฮดรอกซีอะพาไทต์ (Calcium Hydroxyapatite

แนะนำ 6 วิธีกระชับรูขุมขนแบบไว เห็นผลจริง แถมหน้าใสขึ้นด้วย

ปัญหารูขุมขนกว้างมักทำให้ผิวหน้าดูไม่เรียบเนียนและเป็นสาเหตุของการเกิดสิวหรือหน้ามันได้ง่าย การกระชับรูขุมขนและปรับสภาพผิวให้ดูเรียบเนียนขึ้นจึงเป็นสิ่งที่หลายคนต้องการ หากคุณกำลังมองหาวิธีที่ได้ผลเร็วและเห็นการเปลี่ยนแปลงชัดเจน มาดู 5 วิธีที่ช่วยกระชับรูขุมขนแบบไว พร้อมเพิ่มความกระจ่างใสให้กับผิวหน้า 1. ทำความสะอาดผิวหน้าอย่างล้ำลึกด้วยโทนเนอร์ที่มีกรดซาลิไซลิก การทำความสะอาดรูขุมขนเป็นขั้นตอนสำคัญในการลดความมันและสิ่งสกปรกที่อุดตัน โทนเนอร์ที่มีส่วนผสมของกรดซาลิไซลิก (Salicylic Acid) ช่วยละลายคราบมันและสิ่งสกปรกในรูขุมขน ลดการเกิดสิว และกระชับรูขุมขนเมื่อใช้อย่างต่อเนื่อง แนะนำให้ใช้หลังจากล้างหน้าเพื่อเตรียมผิวสำหรับการบำรุงขั้นถัดไป นอกจากนี้ยังควรใช้ครีมกันแดดที่มี SPF อย่างน้อย 30+ อย่างเป็นประจำ รวมทั้งระมัดระวังในเรื่องของการใช้ร่วมกับผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ AHA/BHA อีกด้วย เพราะอาจทำให้ผิวแห้งหรือเกิดการระคายเคืองได้ 2. มาสก์โคลนเพื่อดูดซับน้ำมันส่วนเกิน มาสก์โคลนช่วยขจัดสิ่งสกปรกและน้ำมันที่อุดตันอยู่ในรูขุมขน ทำให้รูขุมขนดูกระชับและผิวหน้าสะอาดขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ควรใช้มาสก์โคลนสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง โดยปล่อยให้มาสก์โคลนแห้งบนผิวหน้า ใช้เวลาประมาณ 10-15 นาที ระหว่างนี้มาสก์จะทำหน้าที่ดูดซับน้ำมันและสิ่งสกปรกจากผิวหน้าลงสู่ชั้นล่าง เมื่อเริ่มรู้สึกว่ามาสก์แห้งและตึงผิว ควรล้างออกด้วยน้ำอุ่น การใช้มาส์กโคลนนั้น นอกจากจะช่วยขจัดสิ่งสกปรกบนผิวหน้าแล้ว ก็ยังช่วยปรับสภาพผิวให้เรียบเนียนขึ้น ลดความมันส่วนเกิน ช่วยกระชับรูขุมขน และทำให้ผิวหน้าดูสะอาดสดใสขึ้น 3. การใช้น้ำแข็งประคบผิวหน้าสำหรับการกระชับรูขุมขนทันที วิธีนี้ง่ายและได้ผลทันทีเมื่อคุณต้องการให้ผิวดูกระชับ โดยการนำผ้าสะอาดห่อน้ำแข็งแล้วประคบเบา ๆ บนผิวหน้า น้ำแข็งจะช่วยหดตัวรูขุมขนชั่วคราว ทำให้ผิวดูเรียบเนียนมากขึ้น เหมาะสำหรับใช้ก่อนแต่งหน้าเพื่อช่วยให้เมคอัพติดทนนาน

โหงวเฮ้งผู้หญิง มีเสน่ห์ โหงวเฮ้งใบหน้า ผู้หญิง เสริมเสน่ห์ สร้างบารมี ปรับหน้าสวยทั้งทีต้องดีทุกด้าน

โหงวเฮ้งผู้หญิง มีเสน่ห์ ความสวยที่ไม่ใช่แค่เพียงถูกหลักความงามทางวิทยาศาสตร์อย่าง Golden Ratio แต่ยังต้องสอดคล้องเข้ากับหลักโหงวเฮ้ง (Mien Shiang) ศาสตร์ของการทำนายทายทักคุณสมบัติและอุปนิสัยของแต่ละบุคคลได้จากลักษณะภายนอก มากไปกว่านั้นคุณผู้หญิงหลายๆ ท่านยังมีความเชื่อว่าโหงวเฮ้งใบหน้าที่ดีจะช่วยเสริมสร้างเสน่ห์ทำให้ใบหน้าสวยงามน่ามองทั้งยังเป็นการช่วยเติมเต็มพลังบวกดึงดูดแต่เรื่องดีๆ ส่งเสริมให้ประสบความสำเร็จในหลากหลายด้านของชีวิตไม่ว่าจะเป็นการเงิน การงาน สุขภาพ ความรักและครอบครัว สาวๆ คนไหนที่กำลังศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโหงวเฮ้งใบหน้า ผู้หญิง โหงวเฮ้งผู้หญิง มีเสน่ห์ ต้องเป็นแบบไหน? ปรับโหงวเฮ้งใบหน้าให้ดีขึ้น ทำได้อย่างไร? ตามมาเสริมพลังความสวยด้วยหลักโหงวเฮ้งใบหน้าในบทความนี้ของลินนา คลินิก (LINNA Clinic) กันได้เลยค่ะ ลักษณะโหงวเฮ้งผู้หญิง มีเสน่ห์ ใบหน้าผู้หญิง ที่ดีต้องเป็นอย่างไร? หากอิงจากตำราความเชื่อของชาวจีนแล้วนั้นลักษณะโหงวเฮ้งใบหน้า ผู้หญิงที่สวยและมีเสน่ห์ประกอบไปด้วย 5 ส่วนสำคัญ ได้แก่ หน้าผาก ตา จมูก ปาก และคาง โดยที่ทุกอย่างจะต้องมีสัดส่วนที่สมดุลรับเข้ากันได้อย่างพอเหมาะ ดังนี้ หน้าผาก หน้าผากนับเป็นส่วนที่อยู่ด้านบนสุดของใบหน้าจึงเปรียบเสมือนจุดพลังงานสำคัญที่จะช่วยเสริมโชคชะตา โหงวเฮ้งผู้หญิง มีเสน่ห์ ที่บริเวณหน้าผากต้องมีลักษณะกลมมน มีความโหนกนูนในระดับที่พอเหมาะไม่ยกสูงหรือราบเรียบจนเกินไป และที่สำคัญโหงวเฮ้งหน้าผากผู้หญิงที่ดูดี ช่วยเพิ่มบารมี โชคลาภวาสนาจะต้องเป็นหน้าผากที่ดูเกลี้ยงเกลา ไม่มีรอยบุ๋ม ไม่มีรอยแผลเป็นหรือริ้วรอยร่องลึกต่างๆ

Scroll to Top