6 วิธีลดเซลลูไลท์ สลายเซลลูไลท์ บอกลาผิวเปลือกส้ม

ลดเซลลูไลท์บอกลาผิวเปลือกส้ม

เซลลูไลท์ ผิวเปลือกส้ม ผิวเป็นคลื่นไม่เรียบเนียน นับเป็นปัญหาผิวที่สาวๆ ส่วนใหญ่ต่างต้องพบเจอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มที่น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นหรือลดลงอย่างรวดเร็ว มีไขมันสะสมอยู่ใต้ชั้นผิวค่อนข้างมากก็จะยิ่งทำให้เกิดเซลลูไลท์ที่มองเห็นได้ชัด โดยบริเวณที่มักพบเซลลูไลท์ได้เยอะได้แก่ เซลลูไลท์ที่ต้นขา สะโพก ก้น หน้าท้องและเซลลูไลท์ที่บริเวณต้นแขน ปัญหาผิวเป็นคลื่นตะปุ่มตะป่ำที่เกิดจากการดึงรั้งของกลุ่มก้อนไขมันเหล่านี้ส่งผลกระทบทำให้ผิวของเราดูไม่เรียบเนียน ไม่สวยงาม จะสวมใส่เสื้อผ้าชุดไหนก็ไม่มั่นใจจนกลายเป็นคนที่ไม่กล้าแต่งตัว ข่าวดีก็คือเราสามารถจัดการปัญหาเหล่านี้ให้ดีขึ้นได้ด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตให้เหมาะสมไปพร้อมๆ กับการดูแลและจัดการปัญหาไขมันใต้ชั้นผิวอย่างตรงจุด จะมีวิธีการลดเซลลูไลท์แบบไหนบ้างไปดูกันได้เลยค่ะ

  1. ไม่เครียดกับการลดน้ำหนักมากจนเกินไป หลายๆ ครั้งของการเริ่มต้นลดน้ำหนักหรือลดไขมันส่วนเกิน เราจะลงมือทำตามแผนที่วางเอาไว้อย่างเคร่งครัดไม่ว่าจะเป็นการควบคุมปริมาณแคลอรี งดขนมและอาหารที่เคยชอบ รวมไปจนถึงตารางออกกำลังหลายร้อยนาทีต่อสัปดาห์ จริงอยู่ว่าการทำตามแผนจะช่วยให้ไขมันส่วนเกินลดลงได้อย่างรวดเร็ว ปัญหาเซลลูไลท์ที่คอยกวนก็จะค่อยๆ ดีขึ้น แต่ถ้าทุกอย่างตึงเครียดมากเกินไปผลลัพธ์ที่ได้นั้นแทบจะสวนทางกัน เมื่อร่างกายเกิดความเครียดระบบฮอร์โมนภายในร่างกายจะเกิดความแปรปรวน ส่งผลให้การลดไขมัน ลดเซลลูไลท์กลายเป็นเรื่องยากมากขึ้น นอกไปจากนี้ยังเพิ่มโอกาสของการสะสมเซลลูไลท์ใหม่ๆ ได้อีกด้วย ดังนั้นแล้วจุดเริ่มต้นของการลดเซลลูไลท์ต้นขา หน้าท้องหรือลดเซลลูไลท์ที่สะโพก คือการให้เวลากับการลดน้ำหนัก ไม่เคร่งเครียดและคาดหวังผลลัพธ์ในช่วงเวลาสั้นๆ
  2. จำกัดปริมาณแคลอรีที่ได้รับให้เหมาะสม ยิ่งเรากินมากเกินกว่าที่ร่างกายต้องการมากเท่าไหร่ ปริมาณไขมันส่วนเกินที่สะสมตามชั้นผิวหนังก็จะยิ่งพอกพูน และส่งผลให้มองเห็นเซลลูไลท์ได้อย่างชัดเจนมากขึ้นเท่านั้น อีกหนึ่งจุดสำคัญของการลดเซลลูไลท์คือการจำกัดปริมาณแคลอรีที่ได้รับในแต่ละวันให้มีความเหมาะสม เลือกกินอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพไม่ว่าจะเป็นเนื้อสัตว์ไม่ติดมัน ผักสดและผลไม้ ดื่มน้ำสะอาดให้ได้อย่างน้อยวันละ 1.5-2 ลิตร ลดอาหารประเภทหวาน มัน เค็ม และของทอด เพียงเท่านี้ก็จะสามารถลดเซลลูไลท์ได้อย่างตรงจุด
  3. การขัดถูและนวดผิวในระหว่างอาบน้ำ ช่วยลดเซลลูไลท์ต้นขาและสะโพก อีกหนึ่งวิธีการลดเซลลูไลท์ต้นขา เซลลูไลท์ต้นแขนและเซลลูไลท์ตามจุดต่างๆ ของร่างกายที่สามารถทำได้ง่ายๆ คือ การนวดลดเซลลูไลท์ด้วยการใช้น้ำมันนวดผิวหรือสครับเนื้อเนียนนุ่มมาขัดถูหรือนวดวนตามต้นแขน ต้นขา สะโพกหรือหน้าท้องในขณะที่อาบน้ำ เพราะการนวดผิวจะช่วยกระตุ้นให้เลือดลมและระบบน้ำเหลืองไหลเวียนได้ดีมากยิ่งขึ้น ทั้งยังเป็นการสครับเพื่อขัดเอาเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกไป ทำให้ผิวเนียนใส ไม่เป็นคลื่น ช่วยทำให้ผิวที่มีเซลลูไลท์ดูดีขึ้นได้
  4. การใช้ครีมลดเซลลูไลท์ ครีมสลายไขมัน วิธีการนวดผิวด้วยครีมลดเซลลูไลท์ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยลดเลือนเซลลูไลท์ให้ดูจางลง พร้อมปรับให้ผิวเรียบเนียนและกระชับมากยิ่งขึ้น ด้วยการเลือกใช้ครีมนวดลดเซลลูไลท์ที่มีส่วนผสมของสารสกัดที่ช่วยเผาผลาญไขมัน เช่น สารคาเฟอีน สารสกัดจากส้มขม (Bitter Orange) สารสกัดจากพริก สารสกัดจากขิง ฯลฯ ร่วมกับวิธีการนวดมือในบริเวณที่ต้องการลดเซลลูไลท์ ครั้งละ 20-30 นาที จุดสำคัญคือการเลือกซื้อครีมนวดลดเซลลูไลท์ที่ปลอดภัยและผ่านการรับรองมาตรฐาน ไม่มีส่วนผสมของสารเคมีที่เป็นอันตรายต่อผิว
  5. การนวดสลายเซลลูไลท์ผิวด้วย Linna RF PRO เทคโนโลยีขั้นกว่าของการนวดสลายเซลลูไลท์ที่ตอบโจทย์สำหรับผู้ที่ลองทำวิธีการอื่นๆ มาก่อนหน้าแต่ไม่เห็นผล Linna RF Pro เป็นการปล่อยคลื่นไฟฟ้าอ่อนๆ ในรูปแบบคลื่นวิทยุความถี่สูง (Radio Frequency) เข้าสู่ชั้นไขมันใต้ผิวหนัง เพื่อสลายไขมันและเซลลูไลท์ที่สะสมตามจุดต่างๆ ของร่างกาย เช่น ต้นขา ต้นแขน สะโพกและหน้าท้อง นอกไปจากนี้ Linna RF Pro ยังช่วยยกกระชับผิว ผิวหนังไม่เป็นริ้วๆ ลดปัญหาผิวเปลือกส้ม โดยแพทย์จะใช้ครีมนวด RF ทาลงบริเวณที่ต้องการลดเซลลูไลท์ จากนั้นจึงใช้หัวเครื่อง RF นวดวนจุดละ 15-20 นาที สามารถทำได้เป็นประจำทุกสัปดาห์เพื่อสร้างผลลัพธ์ที่ชัดเจนโดยไม่เป็นอันตรายต่อผิว
  6. ช้ Hifu หรือ Thermage ช่วยสลายเซลลูไลท์ได้ไวยิ่งกว่า สร้างผลลัพธ์ความเปลี่ยนแปลงและช่วยสลายเซลลูไลท์ได้อย่างเห็นผลในระดับผิวชั้นลึกยิ่งกว่าด้วยการใช้เครื่อง Hifu ที่ใช้คลื่นเสียงอัลตราซาวนด์ความเข้มข้นสูงส่งพลังความร้อนในลักษณะเป็นจุดๆ (Dot) ลงสู่ชั้นผิวลึกถึง 3 ระดับ ช่วยลดไขมัน ลดเซลลูไลท์ต้นขา ต้นแขน สะโพกและหน้าท้องได้อย่างเห็นผล หรือการใช้เครื่อง Thermage เพื่อช่วยสลายไขมันและแก้ปัญหาเซลลูไลท์ ด้วยการใช้คลื่นวิทยุความถี่สูงชนิดขั้วเดียว (Monopolar RF) (ส่วนเครื่อง RF จะใช้คลื่นวิทยุชนิด Bipolar RF) ยิงก้อนพลังงานความร้อนที่มีอุณหภูมิประมาณ 40-50 องศาเซลเซียสเข้าสู่ชั้นผิวหนังตั้งแต่ผิวชั้นบนไปจนถึงชั้นไขมันที่อยู่ลึกลงไป ทำให้ไขมันบางส่วนเกิดการสลายตัวและช่วยแก้ปัญหาเซลลูไลท์ที่บริเวณต้นขา ต้นแขน สะโพกและหน้าท้องได้อย่างตรงจุด และนอกไปจากนี้การทำ Hifu หรือ Thermage จะช่วยลดปัญหาผิวหย่อนคล้อย เพิ่มความกระชับและเต่งตึงได้ดียิ่งกว่าจึงเหมาะกับผู้ที่มีปัญหาไขมันสะสมใต้ชั้นผิวค่อนข้างมาก ผิวมีความหย่อนคล้อยเยอะ

สำหรับหนุ่มๆ สาวๆ คนไหนที่ประสบปัญหามีไขมันสะสมใต้ชั้นผิวค่อนข้างเยอะ มีเซลลูไลท์ที่ต้นขา สะโพก หน้าท้อง ต้นแขน ฯลฯ และพยายามลดเซลลูไลท์ด้วยตนเองมาหลากหลายวิธีแต่ก็ยังไม่เห็นผลลัพธ์การเปลี่ยนแปลงได้อย่างที่ใจต้องการ สามารถขอคำปรึกษาและเข้ารับบริการลดเซลลูไลท์ สลายไขมันสะสมใต้ชั้นผิวด้วยโปรแกรมดูแลผิวที่ Linna Clinic (ลินนาคลินิก) โดยแพทย์จะพิจารณาเลือกใช้วิธีการลดเซลลูไลท์ที่เหมาะสมกับปัญหาของแต่ละบุคคล หากมีปัญหาเซลลูไลท์เพียงเล็กน้อยสามารถจัดการให้ดีขึ้นได้ด้วยโปรแกรม Linna RF PRO หรือในเคสที่มีไขมันสะสมใต้ชั้นผิวเยอะ มองเห็นเซลลูไลท์ได้อย่างชัดเจนและผิวหย่อนคล้อยค่อนข้างมาก แพทย์อาจแนะนำให้เลือกใช้โปรแกรม Linna Hifu Body Contour หรือ Thermage Body เพื่อสร้างผลลัพธ์การรักษาที่ชัดเจนยิ่งกว่า Linna Clinic (ลินนาคลินิก) เราพร้อมดูแลทุกปัญหาผิว ช่วยแก้ปัญหาเซลลูไลท์ สลายไขมันใต้ชั้นผิวด้วยการสร้างผลลัพธ์ที่ชัดเจนและมีความปลอดภัยสูง ดำเนินการรักษาด้วยแพทย์ผู้ชำนาญการทุกขั้นตอน ให้ผิวของคุณกลับมาเนียนสวย ไร้ปัญหาเซลลูไลท์..เรียกความมั่นใจให้กลับมาอีกครั้ง

Related Articles

วิธี ลดน้ำหนักแบบเร็ว โดยไม่พึ่งยาไม่โยโย่

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ในปัจจุบันนั้น มีอาหารให้เราได้เลือกทานมากมาย โดยเฉพาะในประเทศไทยที่มีอาหารหลากหลาย แถมยังมีรสชาติอร่อย ทำให้ใครหลายๆ คน โดยเฉพาะสาวๆ เกิดความกังวลเรื่องน้ำหนักที่อาจเพิ่มมากขึ้นได้ อีกทั้งด้วยวัยและอายุที่เพิ่มมากยิ่งขึ้น ก็ทำให้ระบบการเผาผลาญนั้นทำได้น้อยลง เราจึงอยากมาแนะนำไอเดียสำหรับการลดน้ำหนักที่ทำได้อย่างรวดเร็ว ไม่โยโย่ ไม่ต้องพึ่งพายาลดน้ำหนักที่ส่งผลเสียต่อร่างกายด้วย            1.หลีกเลี่ยงหรืองด อาหารที่ก่อให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาว ไม่ว่าจะเป็น ขนม ของทอด ขนมกรุบกรอบ อาหารสำเร็จรูป ฯลฯ สำหรับใครที่ติดการทานขนม หรือการทานของหวาน ของทอดนั้น อาจเป็นเรื่องที่ทำได้ยากในช่วงแรก แต่ถ้าหากเรามีความอดทนและหักห้ามใจได้สำเร็จ วิธีนี้จะส่งผลดีอย่างมาก ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว เพราะนอกจากความอร่อยแล้ว อาหารเหล่านี้ก็ไม่ได้ส่งผลดีต่อสุขภาพของเราแต่อย่างใด สำหรับใครที่รู้สึกว่าการงดเลยในทันทีเป็นเรื่องที่ทำได้ยาก ก็อาจเลือกเป็นการค่อยๆ ลดปริมาณในการทานลง โดยใน 1 สัปดาห์ อาจมีการกำหนดว่าจะสามารถทานขนม หรือของทานเล่นได้กี่ครั้ง อย่างไรก็ตาม สิ่งที่สำคัญเลยนั่นก็คือ ไม่ควรหักโหมจนเกินไป เพราะจะทำให้เกิดความเครียดได้ และเมื่อเกิดความเครียด ก็จะส่งผลให้เรารู้สึกท้อ และทำให้ไม่สามารถควบคุมอาหารได้ในที่สุด นอกจากนี้เราควบเลือกทานอาหารที่สมดุลและหลากหลาย เพื่อให้ได้สารอาหารที่ครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็น ผักผลไม้

Radiofrequency (RF) Treatment คืออะไร ดีจริงไหม เห็นผลแค่ไหน

คลื่นความถี่วิทยุ (RF) คือคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่มีความยาวคลื่นระหว่าง 100 kHz ถึง 300 GHz คลื่น RF ใช้กันอย่างแพร่หลายในหลากหลายสาขา รวมถึงการแพทย์ อุตสาหกรรม และการสื่อสาร ในการแพทย์ คลื่น RF ใช้เพื่อวัตถุประสงค์ต่างๆ เช่น การผ่าตัด การรักษาโรค และการตรวจวินิจฉัย การรักษาด้วยคลื่นความถี่วิทยุ (RF) เป็นการรักษาที่ได้รับความนิยมในวงการความงาม ใช้ในการยกกระชับผิว กำจัดริ้วรอย และลดไขมันส่วนเกิน การรักษาด้วยคลื่นความถี่วิทยุ (RF) ทำงานโดยการส่งพลังงานคลื่น RF ไปยังผิวหนัง พลังงานคลื่น RF จะทำให้เกิดความร้อนในชั้นผิวหนัง ความร้อนนี้จะช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนและอีลาสตินใหม่ ส่งผลให้ผิวกระชับขึ้น ริ้วรอยลดลง และไขมันส่วนเกินลดลง Table of Contents ประโยชน์ของการรักษาด้วย RF มีอะไรบ้าง ไม่ต้องผ่าตัด: การรักษาด้วย RF สามารถทำได้โดยไม่ต้องผ่าตัด ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการผ่าตัดใหญ่ ไม่จำเป็นต้องดมยาสลบ แต่ใช้เพียงยาชาเฉพาะที่ หรือยานอนหลับ ไม่ต้องพักฟื้น:

เครื่อง RF คืออะไร 

เทคโนโลยี RF (Radio Frequency) เป็นเทคโนโลยีที่ใช้คลื่นความถี่วิทยุในการส่งพลังงานความร้อนไปยังชั้นผิวหนังชั้นลึก โดยคลื่นความถี่วิทยุจะทำให้เกิดความร้อนในชั้นผิวหนังชั้นลึก ส่งผลให้เกิดการหดตัวของคอลลาเจนและอีลาสตินใต้ผิวหนัง ทำให้ผิวกระชับ เต่งตึง เรียบเนียน ลดริ้วรอย รอยเหี่ยวย่น และรอยแผลเป็น นอกจากนี้ยังสามารถกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตและการผลิตคอลลาเจนใหม่ ทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์และสุขภาพดี เทคโนโลยี RF มีหลายประเภท แต่ละประเภทจะมีความถี่และความยาวคลื่นที่แตกต่างกันไป ซึ่งส่งผลต่อประสิทธิภาพและผลข้างเคียงที่แตกต่างกัน ประเภทของเทคโนโลยี RF ที่นิยมใช้ในปัจจุบัน ได้แก่ RF monopolar เป็นเทคโนโลยี RF ที่ใช้ขั้วเดียวในการส่งพลังงานความร้อน เหมาะกับการยกกระชับผิวหน้าและลำคอ RF bipolar เป็นเทคโนโลยี RF ที่ใช้ขั้วสองในการส่งพลังงานความร้อน เหมาะกับการยกกระชับผิวบริเวณเล็ก ๆ เช่น ใต้ตา ร่องแก้ม และรอบดวงตา RF tripolar เป็นเทคโนโลยี RF ที่ใช้ขั้วสามในการส่งพลังงานความร้อน เหมาะกับการยกกระชับผิวบริเวณกว้าง ๆ เช่น หน้าท้อง แขน ขา ผลลัพธ์ของการรักษาด้วยเทคโนโลยี RF จะเริ่มเห็นผลตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ

Scroll to Top