5 คำถามที่คนทำ HIFU ถามกันมามากที่สุด

ผิวหนังหย่อนคล้อยเป็นปัญหาผิวที่เกิดขึ้นอย่างปกติ เพราะแต่ละวันจะมีปัจจัยมากมายช่วยเร่งทำให้ผิวหน้าของเราเสื่อมสภาพ ไม่ว่าจะเป็นอายุ มลภาวะ หรือแม้แต่ความเครียด HIFU จึงเป็นตัวช่วยหนึ่งในการยกกระชับผิวหน้าได้ดี สามารถทำให้เซลล์ผิวมีความอวบอิ่มแน่นกระชับเหมือนกลับมาเป็นวัยแรกรุ่นอีกครั้ง แต่หากยังไม่ทราบว่า HIFU นั้นดีอย่างไร เราจะพาไปทำความรู้จักให้มากขึ้นด้วย 5 คำถามยอดนิยมดังต่อไปนี้

1. HIFU คืออะไร

HIFU หรือ High – Intensity Focus Ultrasound เป็นการปรับรูปหน้าโดยใช้คลื่นอัลตร้าซาวด์ หลักการทำงานคือจะทำการยิงคลื่นอัลตร้าซาวด์ทะลุผ่านผิวหน้าเข้าไป เพื่อทำให้เกิดบาดแผลที่บริเวณภายใต้ชั้นผิวหนัง โดยแผลที่เกิดขึ้นนี้จะเป็นจุดเล็กๆ แต่จะมีจำนวนมาก ด้วยเหตุผลคือต้องการให้ร่างกายสร้างคอลลาเจนขึ้นมาสมานแผล ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้ใบหน้าของเรากระชับขึ้น

2. กระบวนการยกกระชับใบหน้าด้วย HIFU เป็นอย่างไร

ก่อนที่จะทำการยิง HIFU ในขั้นตอนแรกแพทย์จะทาเจลให้ทั่วใบหน้าเพื่อลดอาการระคายเคือง จากนั้นจะใช้เครื่องยิงคลื่นอัลตร้าซาวด์ผ่านผิวหนัง เพื่อส่งผ่านการสร้างแผลภายในโดยที่ไม่มีบาดแผลให้เห็นจากด้านนอกเลย

โดยเครื่อง HIFU นี้มีหัวยิงหลายหัว จึงสามารถยิงคลื่นอัลตร้าซาวด์ที่มีความลึกลงไปสู่ชั้นผิวได้หลายระดับ นั่นก็หมายถึงสร้างแผลลึกได้หลายระดับด้วยเช่นกัน ซึ่งมีผลต่อการสร้างคอลลาเจนอย่างยิ่ง เพราะยิ่งสามารถสร้างแผลได้ลึกก็ย่อมสร้างคอลลาเจนได้มากอีกด้วย

3. การยกกระชับใบหน้าด้วย HIFU ต้องทำบ่อยแค่ไหน

ระยะเวลาการยิง HIFU ในแต่ละครั้งใช้เวลาทำประมาณ 30 – 45 นาที หลังจากทำเสร็จจะเห็นผลประมาณ 10 – 30% และเริ่มเห็นผลลัพธ์ชัดเจนขึ้นภายใน 1 เดือน เมื่อผิวหนังมีการสร้างคอลลาเจนจนอยู่ตัวแล้ว ผลลัพธ์ที่ได้นั้นจะอยู่นานราว 6 – 12 เดือนเลยทีเดียว

การปรับรูปหน้าด้วย HIFU จึงทำแค่ปีละ 1 ครั้งก็เพียงพอ เว้นเสียแต่ว่าผู้ที่มีปัญหาผิวหนังหย่อนคล้อยมากก็อาจจะเพิ่มความถี่เป็น 2 – 3 ครั้งต่อปีตามความเหมาะสม

4. ข้อดีและข้อเสียของการทำ HIFU

จุดเด่นของ HIFU คือการสร้างแผลจุดเล็กๆ ภายใต้ชั้นผิวหนัง ซึ่งเป็นการ Intensity Focus สมชื่อ นั่นจึงแปลว่าใบหน้าของเราจะมีอาการบอบช้ำน้อยมาก แต่ในขณะเดียวกันก็เพียงพอที่จะสร้างคอลลาเจนเพื่อกระตุ้นให้เกิดความเต่งตึง

นอกจากนี้ HIFU ยังมีข้อดีคือไม่มีผลกระทบต่อผิวหนังชั้นนอกแต่อย่างใด ไม่มีบาดแผล รอยเข็ม หรือรอยเขียวช้ำ แต่จะช่วยทำให้ผิวหน้ากระชับขึ้น อีกทั้งเมื่อคอลลาเจนถูกเติมเต็มก็จะช่วยทำให้หน้าใสแถมยังปรับรูปหน้าให้เรียว ทำให้ใบหน้าดูมีกรอบหรือเค้าโครงที่ชัดมากขึ้น

ส่วนผลข้างเคียงของ HIFU ที่อาจเกิดขึ้นคืออาจมีรอยแดงอมชมพูเป็นบางจุด บางคนอาจรู้สึกปวดฟัน เสียวฟัน หรือรู้สึกเจ็บบริเวณที่ยิงคลื่นตรงกับกระดูก รู้สึกเมื่อย แต่จะไม่มีเลือดและรอยแผลแต่อย่างใด โดยอาการเหล่านี้จะหายได้เองภายใน 30 นาที – 2 ชั่วโมง

5. วิธีการนี้เหมาะกับใครบ้าง

การยกกระชับผิวหน้าด้วย HIFU เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาเรื่องผิวหน้าขาดความกระชับ ผิวหนังหย่อนคล้อย หนังตาตก มุมปากตก คิ้วตก รูขุมขนกว้าง อยากลดเหนียงใต้คางและใต้กราม และใบหน้าเริ่มไม่ได้รูป โดยที่โครงสร้างใบหน้านั้นดีอยู่แล้ว เพียงแต่มีปัญหาผิวหนังขาดความชุ่มชื้นกระชับ ซึ่งอาจเกิดจากกาลเวลา ปัญหาความเครียด หรือละเลยการดูแลสุขภาพ

การยกกระชับใบหน้าด้วย HIFU เป็นอีกวิธีหนึ่งที่จะช่วยชะลอวัยและต่อต้านริ้วรอยให้เราสวยไม่สร่าง หรือรู้สึกว่าเวลาไม่สามารถทำร้ายเราได้ เป็นวิธีการยกกระชับใบหน้าที่มีความปลอดภัยสูงและเจ็บตัวน้อยที่สุดเมื่อเทียบกับอีกหลายวิธี ดังนั้นหากคุณกำลังมองหาวิธีดูแลผิวที่ได้ผลดีเยี่ยมโดยใช้เวลาพักฟื้นน้อยที่สุด เชื่อว่า HIFU น่าจะเป็นคำตอบที่ตรงใจใครหลายคน

Related Articles

วิธีใช้เครื่อง HIFU ในการยกกระชับใบหน้ามีดังนี้

 ทำความสะอาดใบหน้าให้สะอาดและแห้ง ทาเจลหล่อลื่นบนใบหน้าบริเวณที่ต้องการทำ HIFU เลือกหัวยิงให้เหมาะกับบริเวณที่ต้องการทำ HIFU วางหัวยิงบนใบหน้าและกดปุ่มเพื่อเริ่มทำ HIFU เคลื่อนหัวยิงไปตามบริเวณที่ต้องการทำ HIFU โดยกดปุ่มยิงแต่ละจุดค้างไว้จนกว่าเสียงติ๊ดจะดังขึ้น ทำซ้ำขั้นตอน 5-6 กับบริเวณอื่น ๆ ที่ต้องการทำ HIFU ระยะเวลาในการทำ HIFU ขึ้นอยู่กับบริเวณที่ทำและระดับความลึกที่ต้องการยิง โดยปกติจะใช้เวลาแปะยาชาทิ้งไว้ 30 นาที และใช้เวลาทำอีกประมาณ 30-60 นาที หากทำไฮฟู่ที่ ลินนาคลินิก (LINNA CLINIC) ทั่วทั้งใบหน้าระยะเวลาอยู่ที่ 15 นาทีโดยที่ไม่ต้องแปะยาชา หลังทำ HIFU อาจจะมีอาการบวมแดงเล็กน้อย ซึ่งจะหายไปเองภายใน 1-2 วัน ผลลัพธ์ของการยกกระชับใบหน้าจะเห็นได้ชัดเจนขึ้นภายใน 1-3 เดือน และผลลัพธ์จะคงอยู่ได้นานประมาณ 6-12 เดือน  Table of Contents ข้อควรระวังในการทำ HIFU ห้ามทำ HIFU ในบริเวณที่มีแผลเปิดหรืออักเสบ ห้ามทำ HIFU ในบริเวณที่มีโลหะฝังอยู่

ไฮฟู (Hifu) ยกกระชับผิว

ไฮฟู (Hi-Fu) คือเทคโนโลยีการยกกระชับผิวหน้าแบบไม่ผ่าตัด โดยใช้คลื่นเสียงความเข้มข้นสูง (HIFU) ส่งพลังงานความร้อนไปยังชั้นผิวหนังชั้นลึก (SMAS) ซึ่งเป็นชั้นกล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อเกี่ยวพันที่รองรับผิวหน้า พลังงานความร้อนนี้จะช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใหม่ ทำให้ผิวหน้ากระชับขึ้น ริ้วรอยตื้นๆ จางลง และผิวดูอ่อนเยาว์ขึ้น Table of Contents ขั้นตอนการทำไฮฟู ทำความสะอาดผิวหน้าและทายาชา (หากต้องการ) ทาเจลเย็นบริเวณที่จะทำไฮฟูเพื่อปกป้องผิว แพทย์จะใช้หัวเครื่องไฮฟูจ่อไปที่บริเวณที่ต้องการรักษา แพทย์จะปล่อยพลังงานความร้อนจากเครื่องไฮฟูไปยังชั้นผิวหนังชั้นลึก การทำไฮฟูโดยปกติจะแปะยาชาทิ้งไว้ 30 นาที และใช้เวลาทำอีกประมาณ 30-60 นาที หากทำไฮฟู่ที่ ลินนาคลินิก (LINNA CLINIC) ทั่วทั้งใบหน้าระยะเวลาอยู่ที่ 15 นาทีโดยที่ไม่ต้องแปะยาชา ผลลัพธ์ของการทำไฮฟู ผลลัพธ์ของการทำไฮฟูจะเริ่มเห็นผลชัดเจน 1-3 เดือน อยู่ได้นานประมาณ 4-6 เดือน ผลลัพธ์ที่ได้จะขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ เช่น อายุ สภาพผิว และความลึกของริ้วรอย โดยทั่วไปแล้ว การทำไฮฟูสามารถช่วยลดริ้วรอยตื้นๆ ได้ถึง 50% และช่วยลดริ้วรอยลึกได้ถึง 30% นอกจากนี้ การทำไฮฟูยังสามารถช่วยยกกระชับผิวหน้า

วิธีใช้เครื่อง HIFU ในการยกกระชับใบหน้า

 ทำความสะอาดใบหน้าให้สะอาดและแห้ง ทาเจลหล่อลื่นบนใบหน้าบริเวณที่ต้องการทำ HIFU เลือกหัวยิงให้เหมาะกับบริเวณที่ต้องการทำ HIFU วางหัวยิงบนใบหน้าและกดปุ่มเพื่อเริ่มทำ HIFU เคลื่อนหัวยิงไปตามบริเวณที่ต้องการทำ HIFU โดยกดปุ่มยิงแต่ละจุดค้างไว้จนกว่าเสียงติ๊ดจะดังขึ้น ทำซ้ำขั้นตอน 5-6 กับบริเวณอื่น ๆ ที่ต้องการทำ HIFU ระยะเวลาในการทำ HIFU ขึ้นอยู่กับบริเวณที่ทำและระดับความลึกที่ต้องการยิง โดยปกติจะใช้เวลาแปะยาชาทิ้งไว้ 30 นาที และใช้เวลาทำอีกประมาณ 30-60 นาที แต่การทำไฮฟู่ที่ ลินนาคลินิก (LINNA CLINIC) ทั่วทั้งใบหน้าระยะเวลาอยู่ที่ 15 นาทีโดยที่ไม่ต้องแปะยาชา หลังทำ HIFU บางท่านอาจจะมีอาการบวมแดงเล็กน้อย ซึ่งจะหายไปเองภายใน 1-2 วัน ผลลัพธ์ของการยกกระชับใบหน้าจะเห็นได้ชัดเจนขึ้นภายใน 1-3 เดือน และผลลัพธ์จะคงอยู่ได้นานประมาณ 6-12 เดือน Table of Contents ข้อควรระวังในการทำ HIFU ห้ามทำ HIFU ในบริเวณที่มีแผลเปิดหรืออักเสบ ห้ามทำ HIFU ในบริเวณที่มีโลหะฝังอยู่

Scroll to Top