รู้ก่อนฉีด Aestox botox กับ Nabota botox แบบไหนดีกว่ากัน

Table of Contents

Botox เป็น Botulinum Toxin Type A ที่มีคุณสมบัติในการช่วยยับยั้งการทำงานของกล้ามเนื้อ โดยจะฉีดเข้าไปยังส่วนที่มีปัญหา ไม่ว่าจะเป็น บริเวณหน้าผาก หางตา รอยย่นระหว่างคิ้ว ร่องแก้ม ร่องลึกใต้ตา เพื่อช่วยในการลดริ้วรอย ปรับรูปหน้าให้เรียวสวย และลดเหงื่อ เป็นต้น ทำให้โบทอกซ์กลายเป็นสารที่มีบทบาทสำคัญในด้านความงามเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการช่วยลดริ้วรอย, การปรับรูปหน้า ไปจนถึงการฉีดเพื่อลดการเกิดเหงื่อ ทั้งในบริเวณรักแร้, ฝ่ามือ, ฝ่าเท้า เป็นต้น

นอกจากนี้ โบท็อกซ์ยังสามารถช่วยรักษาอาการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับกล้ามเนื้อ เช่น ไมเกรน ภาวะเกร็งกล้ามเนื้อคอ เป็นต้น โบท็อกซ์จึงเป็นเครื่องมือเสริมความงามที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน เนื่องจากมีประสิทธิภาพในการลดริ้วรอย ปรับรูปหน้า และลดเหงื่อได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังเป็นวิธีที่ปลอดภัยและไม่ต้องพักฟื้น

รู้จักกับ Aestox botox และ Nabota botox

ในปัจจุบัน โบท็อกซ์มีจำหน่ายหลายยี่ห้อ ซึ่งแต่ละยี่ห้อก็มีจุดเด่นและข้อดีที่แตกต่างกันไป โดยบทความนี้จะมาเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่าง Aestox Botox กับ Nabota Botox ซึ่งเป็นโบท็อกซ์สัญชาติเกาหลีที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในประเทศไทย

Aestox botox

Aestox Botox เป็นโบท็อกซ์สัญชาติเกาหลีที่ผลิตโดยบริษัท Hugel Inc. ได้รับการรับรองมาตรฐานจากทั้งองค์การอาหารและยา (อย.) ของประเทศไทย และองค์การอาหารและยาแห่งเกาหลี (KFDA) ประกอบด้วยสารโบทูลินั่มท็อกซินชนิด A (Botulinum Toxin Type A) ที่มีความบริสุทธิ์สูงถึง 99.5% จึงช่วยลดโอกาสในการดื้อยา และเห็นผลไวกว่าโบท็อกซ์ยี่ห้ออื่นเล็กน้อย Aestox Botox นิยมใช้เพื่อลดริ้วรอยบริเวณต่างๆ บนใบหน้า เช่น หน้าผาก หางตา รอยย่นระหว่างคิ้ว ร่องแก้ม ร่องลึกใต้ตา เป็นต้น นอกจากนี้ยังสามารถใช้เพื่อปรับรูปหน้าให้เรียวสวย และลดเหงื่อได้อีกด้วย

Nabota Botox

Nabota botox เป็นโบท็อกซ์สัญชาติเกาหลีที่ผลิตโดยบริษัท Daewoong Pharmaceutical ได้รับการรับรองมาตรฐานจากทั้งองค์การอาหารและยา (อย.) ของประเทศไทย และองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (FDA) ประกอบด้วยสารโบทูลินั่มท็อกซินชนิด A (Botulinum Toxin Type A) ที่มีความบริสุทธิ์สูงถึง 98.7% จึงช่วยลดโอกาสในการดื้อยา และเห็นผลไวกว่าโบท็อกซ์ยี่ห้ออื่นเล็กน้อย Nabota Botox เอง ก็นิยมใช้เพื่อปรับรูปหน้า ลดเหงื่อ และลดริ้วรอยบริเวณต่างๆ บนใบหน้า ไม่ว่าจะเป็น หน้าผาก หางตา ระหว่างคิ้ว ร่องแก้ม ร่องลึกใต้ตา ฯลฯ เช่นเดียวกัน

ข้อดีและข้อสังเกตของ Aestox Botox กับ Nabota botox

Aestox Botox มีข้อดีอยู่ที่ มีความบริสุทธิ์สูงถึง 99.5% จึงช่วยลดโอกาสในการดื้อยา ทำให้เห็นผลไวกว่าโบท็อกซ์ยี่ห้ออื่นเล็กน้อย ทั้งยังอ่อนโยนต่อผิว ไม่ทำให้หน้าแข็ง จึงเหมาะกับคนที่ต้องการลดกล้ามเนื้อกราม

แต่ทั้งนี้ Aestox Botox เองก็มีข้อสังเกตอยู่ที่อาจเห็นผลช้ากว่าโบท็อกซ์ยี่ห้ออื่นๆ เล็กน้อย ในส่วนของการฉีด Aestox Botox นั้น สามารถทำได้โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ โดยปกติแล้วผลลัพธ์ของ Aestox botox จะสามารถคงอยู่ได้ประมาณ 3-4 เดือน ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับผลลัพธ์ในแต่ละบุคคลด้วย

ส่วน Nabota botox นั้น มีจุดเด่นอยู่ที่ สามารถเห็นผลลัพธ์ได้ไวกว่า Aestox botox เล็กน้อย รวมถึงสามารถกระจายตัวได้ดีกว่า จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการฉีดเพื่อปรับรูปหน้า และผู้ที่ต้องการเห็นผลลัพธ์เร่งด่วน แต่ Nabota botox เองก็มีข้อสังเกตอยู่ที่ อาจมีโอกาสดื้อยามากกว่า Aestox botox อีกทั้งอาจทำให้หน้าดูแข็งได้หากฉีดในปริมาณที่มากเกินไป

สำหรับการฉีด Nabota botox นั้น สามารถทำได้โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ โดยปกติแล้วผลลัพธ์จะคงอยู่ได้ประมาณ 3-4 เดือน ขึ้นอยู่กับผลลัพธ์ของแต่ละบุคคล

Aestox botox กับ Nabota botox เลือกอะไรดี?

การเลือก Aestox Botox กับ Nabota Botox ขึ้นอยู่กับความต้องการและสภาพผิวของแต่ละบุคคล โดยอาจพิจารณาจากปัจจัยต่าง ๆ ได้ ดังนี้

– ความบริสุทธิ์: Aestox Botox มีความบริสุทธิ์สูงถึง 99.5% ในขณะที่ Nabota Botox มีความบริสุทธิ์สูงถึง 98.7% ดังนั้น Aestox Botox จึงมีโอกาสดื้อยาน้อยกว่า Nabota Botox

– ระยะเวลาในการเห็นผล: Nabota Botox นั้น จะเห็นผลไวกว่า Aestox Botox เล็กน้อย โดย Nabota Botox จะเห็นผลลัพธ์ได้ภายใน 24 ชั่วโมง ในขณะที่ Aestox Botox เห็นผลภายใน 48-72 ชั่วโมง

– การกระจายตัว: สำหรับ Nabota Botox นั้น จะสามารถกระจายตัวได้ดีกว่า Aestox Botox ดังนั้น Nabota Botox จึงเหมาะกับการฉีดเพื่อปรับรูปหน้า

– อาการข้างเคียง: ทั้ง Aestox Botox และ Nabota Botox มีโอกาสเกิดอาการข้างเคียงที่คล้ายคลึงกัน เช่น ปวดศีรษะ ตาแห้ง ปากแห้ง เป็นต้น อย่างไรก็ตาม อาการเหล่านี้มักเป็นอาการชั่วคราวและจะหายไปเองภายในไม่กี่วัน

– ราคา: โดยทั่วไปแล้ว Nabota Botox จะมีราคาสูงกว่า Aestox Botox

กล่าวโดยสรุปแล้ว ทั้ง Aestox Botox และ Nabota Botox ต่างก็เป็นโบท็อกซ์สัญชาติเกาหลีที่มีประสิทธิภาพในการลดริ้วรอยและปรับรูปหน้า อย่างไรก็ตาม Aestox Botox มีข้อดีตรงที่ราคาเริ่มต้นที่ต่ำกว่าและกระจายตัวแคบกว่า เหมาะกับคนที่ต้องการลดกล้ามเนื้อกราม ในขณะที่ Nabota Botox มีข้อดีตรงที่เห็นผลไวกว่าและกระจายตัวได้กว้างกว่า จึงเหมาะกับคนที่ต้องการลดริ้วรอยบริเวณกว้าง

ดังนั้น หากใครที่ต้องการโบท็อกซ์ที่มีประสิทธิภาพในการลดริ้วรอย อ่อนโยนต่อผิว หรือต้องการลดกล้ามเนื้อกราม แนะนำให้เลือก Aestox Botox แต่หากต้องการโบท็อกซ์ที่เห็นผลไว ต้องการฉีดเพื่อปรับรูปหน้า ก็อาจเลือก Nabota Botox เป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์มากกว่า แต่อย่างไรก็ตาม การเลือกโบท็อกซ์ที่ดีที่สุดนั้นควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้แพทย์ช่วยประเมินความต้องการและสภาพผิวของแต่ละบุคคล และแนะนำโบท็อกซ์ยี่ห้อที่เหมาะสม เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและมีประสิทธิภาพมากที่สุด ที่ Linna Clinic (ลินนาคลินิก) เรามีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมให้คำแนะนำและปรึกษาในด้านความงาม ผู้ที่สนใจสามารถติดต่อเข้ามาสอบถามได้ที่ LINE: @linnaclinic

Related Articles

แนะนำ 6 วิธีกระชับรูขุมขนแบบไว เห็นผลจริง แถมหน้าใสขึ้นด้วย

ปัญหารูขุมขนกว้างมักทำให้ผิวหน้าดูไม่เรียบเนียนและเป็นสาเหตุของการเกิดสิวหรือหน้ามันได้ง่าย การกระชับรูขุมขนและปรับสภาพผิวให้ดูเรียบเนียนขึ้นจึงเป็นสิ่งที่หลายคนต้องการ หากคุณกำลังมองหาวิธีที่ได้ผลเร็วและเห็นการเปลี่ยนแปลงชัดเจน มาดู 5 วิธีที่ช่วยกระชับรูขุมขนแบบไว พร้อมเพิ่มความกระจ่างใสให้กับผิวหน้า 1. ทำความสะอาดผิวหน้าอย่างล้ำลึกด้วยโทนเนอร์ที่มีกรดซาลิไซลิก การทำความสะอาดรูขุมขนเป็นขั้นตอนสำคัญในการลดความมันและสิ่งสกปรกที่อุดตัน โทนเนอร์ที่มีส่วนผสมของกรดซาลิไซลิก (Salicylic Acid) ช่วยละลายคราบมันและสิ่งสกปรกในรูขุมขน ลดการเกิดสิว และกระชับรูขุมขนเมื่อใช้อย่างต่อเนื่อง แนะนำให้ใช้หลังจากล้างหน้าเพื่อเตรียมผิวสำหรับการบำรุงขั้นถัดไป นอกจากนี้ยังควรใช้ครีมกันแดดที่มี SPF อย่างน้อย 30+ อย่างเป็นประจำ รวมทั้งระมัดระวังในเรื่องของการใช้ร่วมกับผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ AHA/BHA อีกด้วย เพราะอาจทำให้ผิวแห้งหรือเกิดการระคายเคืองได้ 2. มาสก์โคลนเพื่อดูดซับน้ำมันส่วนเกิน มาสก์โคลนช่วยขจัดสิ่งสกปรกและน้ำมันที่อุดตันอยู่ในรูขุมขน ทำให้รูขุมขนดูกระชับและผิวหน้าสะอาดขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ควรใช้มาสก์โคลนสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง โดยปล่อยให้มาสก์โคลนแห้งบนผิวหน้า ใช้เวลาประมาณ 10-15 นาที ระหว่างนี้มาสก์จะทำหน้าที่ดูดซับน้ำมันและสิ่งสกปรกจากผิวหน้าลงสู่ชั้นล่าง เมื่อเริ่มรู้สึกว่ามาสก์แห้งและตึงผิว ควรล้างออกด้วยน้ำอุ่น การใช้มาส์กโคลนนั้น นอกจากจะช่วยขจัดสิ่งสกปรกบนผิวหน้าแล้ว ก็ยังช่วยปรับสภาพผิวให้เรียบเนียนขึ้น ลดความมันส่วนเกิน ช่วยกระชับรูขุมขน และทำให้ผิวหน้าดูสะอาดสดใสขึ้น 3. การใช้น้ำแข็งประคบผิวหน้าสำหรับการกระชับรูขุมขนทันที วิธีนี้ง่ายและได้ผลทันทีเมื่อคุณต้องการให้ผิวดูกระชับ โดยการนำผ้าสะอาดห่อน้ำแข็งแล้วประคบเบา ๆ บนผิวหน้า น้ำแข็งจะช่วยหดตัวรูขุมขนชั่วคราว ทำให้ผิวดูเรียบเนียนมากขึ้น เหมาะสำหรับใช้ก่อนแต่งหน้าเพื่อช่วยให้เมคอัพติดทนนาน

Ultraformer คืออะไร ราคาเท่าไหร่ ช่วยยกกระชับได้นานถึง 1 ปี จริงไหม

อยากมีผิวสวยกระชับ ดูเต่งตึง ไม่มีริ้วรอยร่องลึกและความเหี่ยวย่นต่างๆ คอยกวนใจแต่ไม่อยากผ่าตัดยกกระชับ ไม่อยากฉีดสารสังเคราะห์ทั้งพวกโบท็อกซ์ (Botox) หรือฟิลเลอร์ (Filler) เข้าสู่ร่างกายทำได้หรือไม่? โจทย์งานผิวจะยากเพียงใดแต่นวัตกรรมยกกระชับผิวอย่าง Ultraformer ก็เอาอยู่ด้วยสุดยอดเทคโนโลยีเพื่อผิวยกกระชับ ลดริ้วรอยและกระตุ้นคอลลาเจนใหม่ๆ ใต้ชั้นผิวได้อย่างดีเยี่ยมโดยไม่ต้องผ่าตัด เห็นผลการเปลี่ยนแปลงได้ภายในครั้งแรกที่ทำ สำหรับใครที่ต้องการยกกระชับผิวให้สวยหล่อดูมั่นใจมากขึ้นและกำลังมีแพลนทำ Ultraformer แต่ยังไม่มั่นใจว่า Ultraformer ดีจริงไหม ราคาเท่าไหร่ หลังทำ Ultraformer ช่วยคงผลลัพธ์ผิวยกกระชับได้นานถึง 1 ปี จริงไหม? มาดูทุกคำตอบไปพร้อมๆ กันได้ในบทความนี้จาก Linna Clinic (ลินนา คลินิก) Table of Contents Ultraformer คืออะไร? Ultraformer (อัลตราฟอร์เมอร์) คือ เทคโนโลยีเพื่อการยกกระชับผิวหน้า ปรับรูปหน้าให้เรียวสวยได้ทรงวีเชฟ (V-shape) โดยไม่ต้องผ่าตัดด้วยการยิงคลื่นเสียงอัลตราซาวด์ความเข้มข้นสูงและมีความเฉพาะเจาะจงแบบ MMFU (Micro & Macro Focus Ultrasound) เข้าสู่ชั้นใต้ผิวหนังและสามารถลงลึกถึงชั้นกล้ามเนื้อส่วนบนหรือผิวชั้น SMAS (Superficial Muscular

โหงวเฮ้งผู้หญิง มีเสน่ห์ โหงวเฮ้งใบหน้า ผู้หญิง เสริมเสน่ห์ สร้างบารมี ปรับหน้าสวยทั้งทีต้องดีทุกด้าน

โหงวเฮ้งผู้หญิง มีเสน่ห์ ความสวยที่ไม่ใช่แค่เพียงถูกหลักความงามทางวิทยาศาสตร์อย่าง Golden Ratio แต่ยังต้องสอดคล้องเข้ากับหลักโหงวเฮ้ง (Mien Shiang) ศาสตร์ของการทำนายทายทักคุณสมบัติและอุปนิสัยของแต่ละบุคคลได้จากลักษณะภายนอก มากไปกว่านั้นคุณผู้หญิงหลายๆ ท่านยังมีความเชื่อว่าโหงวเฮ้งใบหน้าที่ดีจะช่วยเสริมสร้างเสน่ห์ทำให้ใบหน้าสวยงามน่ามองทั้งยังเป็นการช่วยเติมเต็มพลังบวกดึงดูดแต่เรื่องดีๆ ส่งเสริมให้ประสบความสำเร็จในหลากหลายด้านของชีวิตไม่ว่าจะเป็นการเงิน การงาน สุขภาพ ความรักและครอบครัว สาวๆ คนไหนที่กำลังศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโหงวเฮ้งใบหน้า ผู้หญิง โหงวเฮ้งผู้หญิง มีเสน่ห์ ต้องเป็นแบบไหน? ปรับโหงวเฮ้งใบหน้าให้ดีขึ้น ทำได้อย่างไร? ตามมาเสริมพลังความสวยด้วยหลักโหงวเฮ้งใบหน้าในบทความนี้ของลินนา คลินิก (LINNA Clinic) กันได้เลยค่ะ ลักษณะโหงวเฮ้งผู้หญิง มีเสน่ห์ ใบหน้าผู้หญิง ที่ดีต้องเป็นอย่างไร? หากอิงจากตำราความเชื่อของชาวจีนแล้วนั้นลักษณะโหงวเฮ้งใบหน้า ผู้หญิงที่สวยและมีเสน่ห์ประกอบไปด้วย 5 ส่วนสำคัญ ได้แก่ หน้าผาก ตา จมูก ปาก และคาง โดยที่ทุกอย่างจะต้องมีสัดส่วนที่สมดุลรับเข้ากันได้อย่างพอเหมาะ ดังนี้ หน้าผาก หน้าผากนับเป็นส่วนที่อยู่ด้านบนสุดของใบหน้าจึงเปรียบเสมือนจุดพลังงานสำคัญที่จะช่วยเสริมโชคชะตา โหงวเฮ้งผู้หญิง มีเสน่ห์ ที่บริเวณหน้าผากต้องมีลักษณะกลมมน มีความโหนกนูนในระดับที่พอเหมาะไม่ยกสูงหรือราบเรียบจนเกินไป และที่สำคัญโหงวเฮ้งหน้าผากผู้หญิงที่ดูดี ช่วยเพิ่มบารมี โชคลาภวาสนาจะต้องเป็นหน้าผากที่ดูเกลี้ยงเกลา ไม่มีรอยบุ๋ม ไม่มีรอยแผลเป็นหรือริ้วรอยร่องลึกต่างๆ

Scroll to Top